มิติหุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) โดยนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริ
โดยครึ่งแรกของปี 2562 PTTEP ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์เชิงรุกในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ในอ่าวไทย การชนะการประมูลและได้รับสิทธิในแปลงสำรวจปิโตรเลียมทั้งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และมาเลเซีย การเข้าซื้อกิจการของบริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 10 กค.ที่ผ่านมา รวมทั้ง การเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 33.8 ในบริษัท อพิโก แอลแอลซี จากบริษัท เทเท็กซ์ ไทยแลนด์
ดังนั้น PTTEP จึงได้ทบทวนแผนการลงทุนของปี 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากความสำเร็จดังกล่าว โดยปรับประมาณการรายจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 3,577 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ดอลลาร์ สรอ.) หรือราว 116,246 ลบ. จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 3,256 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือราว 107,453 ลบ. อย่างไรก็ตาม ประมาณการรายจ่ายข้างต้น ไม่รวมรายจ่ายในการเข้าซื้อกิจการอีกประมาณ 2,086 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือราว 67,795 ลบ.)
สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (2562-2566) PTTEP ได้ปรับประมาณการรายจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 21,354 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 685,143 ล้านบาท) จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 16,105 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 525,055 ล้านบาท) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จากแผนงานและการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ PTTEP ปรับเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย (Average petroleum sales volume) ในปี 2562 ขึ้นเป็น 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากเดิมที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ 318,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.5 สำหรับปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันของปี 2562 – 2566 ได้ปรับเพิ่ม โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตแบบทบต้น (Compounding Annual Growth Rate : CAGR) ประมาณร้อยละ 7 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
www.mitihoon.com