ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงาน ว่า บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมาย 29 บาท โดยประเมินกำไรไตรมาส 2/2562 จะยังเติบโต 380 ล้านบาท (+11% ไตรมาสก่อนหน้า, +24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) กำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่องคาดจะได้แรงหนุนจากเงินปันผลของ GULF และ TSE ประมาณ 58 ล้านบาท ทำให้รายได้อื่นคาดจะสูง 78 ล้านบาท (+42% ไตรมาสก่อนหน้า, +37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) และ ความคืบหน้าต่อเนื่องของ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สีชมพู และ สีส้ม
รวมถึงงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า GULF ทำให้ยอดรับรู้รายได้คาดจะยังสูง 7,615 ล้านบาท (+2%QoQ, +34%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะทรงตัวที่ 7.3% ใกล้ไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากปีก่อนซึ่งเท่ากับ 7.7%
อย่างไรก็ดี STEC มี Backlog ปัจจุบันที่สูงถึง 9 หมื่นล้านบาท ในอนาคตกลุ่ม BTS+BA+STEC มีแนวโน้มจะได้โครงการสนามบินอู่ตะเภา 2.9 แสนล้านบาท หลังจากกลุ่ม CP ส่งเอกสารประมูลล่าช้า นอกจากนี้ STEC จะเข้าร่วมประมูลโครงการในอนาคต เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 1 แสนล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก 1 แสนล้านบาท รถไฟทางคู่เฟส2 เกือบ 4 แสนล้านบาท Thai Oil Pcl จะมีการอัพเกรดโรงกลั่นจะใช้เงินลงทุนร่วม 3 แสนล้านบาท จะช่วยเสริมBacklogปัจจุบัน ปี2562
อย่างไรก็ดีประเมิน STEC จะมียอดรับรู้รายได้จากโครงการในอัตราเร่งมากขึ้นเท่ากับ 32,079 ล้านบาท เติบโต 17% ใกล้เคียงกับประมาณการของผู้บริหาร 32,000-33,000 ล้านบาท แต่เราปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นลง คาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,566 ล้านบาท ลดลงจากคาดการณ์เดิม 7% และ ลดลงจากปีก่อน 3% ถ้าหากตัดรายการพิเศษในปีก่อนจะมีกำไรปกติที่เติบโตสูง 21%
www.mitihoon.com