MGT เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวดอกผล-ลุยโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ขนาด 9.6MW

381

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บมจ.เมกาเคม (ประเทศไทย) หรือ MGT ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยนักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ทิศทางผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปี 62 ยังเติบโตได้ดี จากปัจจัยหลัก ได้แก่

1)ได้รับคำสั่งซื้อพิเศษเข้ามาในไตรมาส 3/2562 หลังโรงงานผลิตสารเคมีที่จีนถูกสั่งปิดบางส่วนเนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ Supply ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
2) Synergy ระหว่าง Megachem Plus โดย MGTจะรับรู้รายได้จาก Megachem Plus เต็มปีเป็นปีแรก

3) การขยายฐานลูกค้าของ Megachem Plus ที่อยู่ระหว่างขออนุญาตนำเข้าเอทานอลบริสุทธิ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยา จากเดิมที่นำเข้าได้เพียงเอทานอลแปลงสภาพ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
4)ได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาทจากระดับ 32.28USD/THB ณ สิ้นปี 2561 มาอยู่ที่ 30.68USD/THB ในไตรมาส 2/2562 ส่งผลให้เราคาด Gross Margin ปีนี้ไว้ที่ระดับ 30.2% ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ 29.2%
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ขนาด 9.6MW ซึ่ง COD แล้ว (งบลงทุนราว 500 ล้านบาท) คาดว่าจะชัดเจนภายในไตรมาส 4/2562 ดังนั้นประมาณการรายได้ปี 2562 ที่ 732 ล้านบาท เติบโต 11% และคาดกำไรสุทธิราว 70 ล้านบาท เติบโต 42.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยประเมินว่า CAGR ระหว่างปี 2561-2563 เฉลี่ย 17% ต่อปี โดยมองว่าราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MGT ราคาเหมาะสม 2.40 บาท
นายวิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ทั้งปี 62 เติบโต 26% หรือราว 730-750 ล้านบาท โดยบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปีนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 80% ขณะเดียวกันมีแผนลงทุนในเมียนมาหลังรัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น แต่รอดูความชัดเจนด้านนโยบายและทิศทางการเมืองก่อน คาดจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้