ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA โดย “นายอมร ทรัพย์ทวีกุล” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/62 เนื่องจาก “ธุรกิจพลังงานทดแทน” โรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน จ.ชัยภูมิ สามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ครบ 260 MW ทำให้มีโรงไฟฟ้า COD รวมทั้งสิ้น 664 MW
ขณะที่“ธุรกิจ ไบโอดีเซล (บี100)” ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐ ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้จะเติบโตทำนิวไฮแตะที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต18.52% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.26 หมื่นล้านบาท
ชี้ปี63ปั๊มรายได้2หมื่นล.
นางสาวออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เผยว่า ปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮต่อเนื่องที่ระดับ 2 หมื่นล้านบาท เติบโตเกิน 30% จากปีก่อน เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเข้ามาเต็มปีที่ 664 MW รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ อย่าง “ธุรกิจผลิตรถไฟฟ้า” ล่าสุดมียอดจองเข้ามาแล้ว 4,500 คัน คาดเริ่มส่งมอบในปี 63 กว่า 5.4 พันล้านบาท ส่วน “ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่” เฟสที่ 1 คาดรายได้ 3 พันล้านบาท
ขณะที่ “ธุรกิจไบโอดีเซล”เติบโตต่อเนื่อง และ “ธุรกิจเรือไฟฟ้า” ปี 63 มีแผนประกอบเรือรวม 54 ลำ ด้านโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา คาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ภายในปี 62 ซึ่งสามารถผลิตได้ประมาณ 10,000 คัน/ปี ภายใต้งบลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท
กำไรQ2นิวไฮ1.3พันล.
“บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” เผยว่า คาดไตรมาส 2/62 แจ้งทำกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 1.3 พันล้านบาท เติบโตเกิน 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 998 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟสสุดท้าย (หนุมาน ครบ 260MW) ได้เริ่ม COD เดือน เม.ย. 2562 ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมขึ้นไปแตะ 664MW ส่วนธุรกิจโรงกลั่นไบโอดีเซลมีแนวโน้มดีขึ้นจาก spread ที่กว้างขึ้น ทำให้คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะทำได้ดีกว่าในไตรมาสแรกที่เพียง 8%
ทั้งนี้ EA ยังอยู่ระหว่างเตรียมสายการผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ล่าสุดในเฟสแรกที่ได้รับจองไว้ 4,558 คัน ซึ่ง EA ตั้งเป้าจะเริ่มผลิตในปลายปี 62 และ ทยอยส่งมอบในไตรมาส 1/63 ส่วน “ธุรกิจเรือไฟฟ้า” กำลังต่อเรือ 2 ลำแรก เพื่อทดสอบให้บริการบนแม่น้ำเจ้าพระยา จากเป้าปีนี้ 20 ลำ ส่วน “โรงงานแบตเตอรี่” เริ่มทำฐานราก และเครื่องจักรกำลังทยอยนำเข้ามาแล้ว ดังนั้นมั่นใจ EA จะสร้างกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 57.75 บาท
ทั้งปีกำไรนิวไฮรอบ7ปี
ขณะที่ “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” เผยว่า EA อยู่ระหว่างผลักดันธุรกิจที่จะเป็น S-curve ใหม่มาชดเชยการลดลงของรายได้จากโซลาร์ในอนาคต ได้แก่1.รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ “MINE” ซึ่งมีคำสั่งซื้อถึงเป้าแล้วและจะเริ่มทยอยส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/62 , 2. สถานีชาร์จไฟฟ้าซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรเช่น ROBINS, CPALL, ปั๊มคาลเท็กซ์, Bridgestone ACT ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere ให้ถึงเป้า 1,000 สถานีภายในสิ้นปี 62 จากปัจจุบัน 400-500 สถานี รูปแบบรายได้จะเป็นการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ โดย EA ไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ win-win ทุกฝ่าย
ส่วน 3. Green diesel และ PCM เป็นสินค้าที่ต่อยอดจากธุรกิจ B100 ในปัจจุบันแต่มีมาร์จิ้นสูงกว่ามาก มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ปลายปี 62 หรือต้นปี 63 และ 4.Battery storage เฟสแรก 1 GWh จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ปลายปี 62 ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรปกติทำนิวไฮในรอบ 7 ปี ที่ 6.01 พันล้านบาท เติบโต 53.7% แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 62 บาท
ปลื้มรัฐหนุน Energy Storage
ด้าน “บล.กรุงศรี” ฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” EA ราคาเป้าหมาย 63 บาท จากการโดดเด่นในทุกธุรกิจโดยไตรมาส 2/62 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮต่อเนื่อง โดย “ธุรกิจแบตเตอร์รี่” ล่าสุดได้ Sentiment บวกหลังจาก รมว.พลังงานคนใหม่ประกาศส่งเสริมโครงการ Energy Storage อย่างจริงจัง นับเป็นปัจจัยบวกให้กับ EA