ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารทหารไทย หรือ TMB โดย “นายปิติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ธนาคารได้อนุมัติซื้อหุ้น บมจ.ธนาคารธนชาต หรือ TBANK จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 ราย คือ บมจ. ทุนธนชาต หรือ TCAP และสโกเทียแบงก์ หรือ BNS จำนวน 6,062.43 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 99.96%
โดยธนาคารจะจัดหาเงินทุนเพื่อเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวประมาณ 130,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 20% จะมาจากการออกและเสนอขายตราสารหนี้ 9,600-16,000 ล้านบาท จากตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (AT1) และ มาจากตราสารด้อยสิทธิ 15,000 ล้านบาท
ส่วนอีก 80% นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.จำนวน 42,500 ล้านบาท จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TMB โดยกำหนดราคาใช้สิทธิ TSR ที่ 1.35-1.6 บาทต่อหุ้น และ 2. จำนวน 64,000 ล้านบาท จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนใหม่ ที่ราคา 1.1 เท่าของราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี ภายหลังการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตาม TSR (1.1*P/BV post-TSR) แบ่งเป็นขายบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 6,400 ล้านบาท และอีก 57,600 ล้านบาทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ TCAP และ BNS
ทั้งนี้คาดว่ากระบวนการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 62 นี้ และการควบรวมกิจการของ TMB และ TBANK จะสมบูรณ์ภายในปี 64 ภายหลังจากนั้น โครงสร้างผู้ถือหุ้นใน TMB จะเปลี่ยนเป็น ING ถือหุ้น 21.3% ,TCAP ถือหุ้น 20.4% ,กระทรวงการคลัง 18.4% ,BNS ถือหุ้น 5.6% และผู้ถือหุ้นรายย่อย 34.3% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
พร้อมกันนี้ภายหลังจากควบรวมกิจการ จะทำให้เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ “เกือบเท่าตัว” มีสินทรัพย์รวมกันเกือบ 2 ล้านล้านบาท มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นประมาณ10 ล้านคน มีความทับซ้อนกันไม่ถึง 10% ซึ่งถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่ขึ้น กว้างขวางขึ้น มีโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นจากความเก่งของทั้ง 2 ธนาคารที่จะรวมกัน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกฐานลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้มีโอกาสเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต และทำให้มีสาขารวม 920 สาขา มีพนักงานรวมกันทั้งสิ้น 19,000 คน
ด้าน “นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP กล่าวว่า TCAP จะได้รับเงินสดจากการขายหุ้น TBANK ประมาณ 80,000 ล้านบาท แบ่งเป็น จะนำไปปรับโครงสร้างหนี้ 14,000 ล้านบาท,ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน TMB 45,200 ล้านบาท , ซื้อหุ้นของบริษัทย่อย 12,000 ล้านบาท ส่วนเงินสดที่เหลือประมาณ 10,000 ล้านบาท จะนำไปลงทุนในกิจการใหม่ๆ
ขณะที่ “นายจุมพล ริมสาคร” รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มเป็นเงินไม่น้อยกว่า 11,000 ล้านบาท ชี้ได้เตรียมวงเงินไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะไม่กระทบต่องบประมาณภาครัฐแน่นอน
www.mitihoon.com