ERW เด้งรับวิกฤตฮ่องกง รัฐกระตุ้นท่องเที่ยว (14/08/62)

224

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ปหรือ ERW ทำธุรกิจลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรม โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง” เผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น ERW แม้ผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะออกมาไม่ค่อยสดใส เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเรื่องพนักงานที่สูง และจำนวนนักลงทุนจีนที่ชะลอตัวลง เป็นตัวแปรที่กดดันให้ผลประกอบการออกมาย่ำแย่ แต่อย่างไรก็ดีอยากให้ “มองข้ามช็อต” เพราะช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่น

เด้งรับนักท่องเที่ยวพุ่ง

โดยช่วงครึ่งปีหลัง ERW จะได้รับอานิสงส์ 2 เด้ง คือ 1. เหตุประท้วงในประเทศฮ่องกงที่ทวีความรุนแรงขึ้นทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาท่องเที่ยวในไทยแทน ประกอบกับเป็นช่วงที่จีนและรัสเซียเริ่มกลับมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น และ 2.ภายในเร็วๆนี้ภาครัฐจะประกาศแผนกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยมากยิ่งขึ้นและกระจายในทุกๆภูมิภาค โดย  ERW จะได้รับประโยชน์เต็มๆ เพราะมีโรงแรม Hop Inn กระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7.50 บาท  อัพไซด์เกิน 50%

บล.ฟิลลิป เผยว่า ช่วงไตรมาส 2/62 คาด ERW จะพลิกขาดทุนต่ำสุดในรอบปี ที่ 4 ล้านบาท จากไตรมาส 2/61 และไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท และ 235 ล้านบาท ตามลำดับ จากผลกระทบค่าใช้จ่ายพนักงาน 18 ล้านบาท แต่หากไม่นับรายการนี้กำไรปกติอยู่ที่ 14 ล้านบาท ลดลง 52.6% จากไตรมาส 2/61 และ 94.0% จากไตรมาส 1/62

เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชะลอตัว, ผลกระทบเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้ RevPar (ไม่รวม Hop Inn) ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก Occ. Rate และ ARR ที่ปรับลดลง จากโรงแรมตจว.ที่ยังไม่ฟื้นตัว เช่น สมุย ภูเก็ต (ลดลง Double digit) แต่ว่าพัทยาเริ่มดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน คาด EBITD

ทั้งปีกำไรนิวไฮ-เป้า7.80บ.

อย่างไรก็ดีคาดการดำเนินงานจะฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง จากฐานนักท่องเที่ยวที่ต่ำในปีก่อนภายหลังที่เกิด เหตุการณ์เรือล่ม, การขยายโรงแรมเพิ่ม 9 แห่งในไตรมาส 3/62ซึ่งเป็น Hop In ทั้งหมด 4 แห่ง และไตรมาส 4/62 แบ่งเป็น Hop Inn 3 แห่ง และ โรงแรมใหญ่ 2 แห่ง (Mercure & Ibis) ตลอดจนโรงแรม JW Marriot จะกลับมาเปิดครบทั้งหมด 441 ห้อง ดังนั้นคงประมาณการกำไรทั้งปี 62 ทำนิวไฮที่ 550 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7.80 บาท  อัพไซด์เกิน 50%

ด้าน “นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เผยว่า ปี 62 บริษัทมีแผนใช้งบลงทุน 3,300 ล้านบาท เพื่อเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง ในไทย แบ่งเป็นแบรนด์ “HOP INN” 7แห่ง และ โรงแรมอีก 2 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงแรมเมอร์เคียว และโรงแรมไอบิส สุขุมวิท 24  ส่งผลให้ทั้งปี 62 บริษัทจะมีโรงแรมทั้งหมด 70 แห่ง และมีห้องพักทั้งหมด 9,559 ห้อง โดยคาดหวังอัตราการเข้าพัก (Occupency Rate) อยู่ที่ระดับ 80%

ทั้งปีรายได้โต10%

โดยทั้งปี 62 คาดรายได้จะเติบโต 7-10% จากปีก่อน แต่ต่ำกว่าเป้าหมายเพราะนักท่องเที่ยวชะลอตัวและบริษัท อยู่ระหว่างปรับปรุง “โรงแรม JW Marrot” เฟสสุดท้าย150 ห้อง ทำให้รายได้ลดลง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือน ก.ย.นี้และเริ่มให้บริการได้เต็มรูปแบบช่วงไตรมาส 4/62