มิติหุ้น – บมจ. มิตรสิบ ลิสซิ่ง หรือ MITSIB คาดสิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อแตะ 3,000 สัญญา จากครึ่งปีแรกทำได้ 2,605 สัญญา ด้านผู้บริหาร “นิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 19.49 ลบ. โต17% จากไตรมาส 1/62 มีกำไร 16.61 ลบ. และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 17.27 ลบ. สนับหนุน 6 เดือนโกยกำไรอยู่ที่ 36.11 ลบ. เพิ่มจากช่วงปีก่อนที่ 35.80 ลบ. หลังจำนวนสัญญาหนี้เช่าซื้อ-ยอดขายเพิ่มขึ้น พร้อมวางเป้า 3 ปี (62-65) พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อแตะ 5 พันสัญญา หวังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 จากปัจจุบันที่ 2-3 ของอุตสาหกรรม
นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) “MITSIB”ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าชื้อรถแท็กซี่ใหม่ รถแท็กซี่มือสอง รวมถึงบริการสินเชื่อเพื่อรถแท็กซี่และรถขนส่งสาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดสิ้นปีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้ออยู่ที่ 3,000 สัญญา จาก2,605 สัญญา ณ 30 มิ.ย. 2562 โดยเพิ่มขึ้นจาก 2,495 สัญญา ในงวดสิ้นปี 2561 ซึ่งในไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยรับจากสัญญาเช่าซื้อ 47.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 42.60 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจำนวนสัญญาหนี้เช่าซื้อเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 19.49 ล้านบาท เติบโต17%เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2562 มีกำไร 16.61 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.27 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกมีกำไร 36.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.80 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานในปีนี้ ภายหลังจากการที่บริษัทเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai ในวันที่ 11 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมิตรสิบ ลิสซิ่ง พยายามที่จะทำผลการดำเนินงานให้เติบโต ด้วยแรงผลักดันจากทั้งทีมผู้บริหารพนักงานของมิตรสิบ ลิสซิ่ง ที่มีความตั้งใจจริงที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ดี และมุ่งมั่นที่จะสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืนถัดไป ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 เป็นสิ่งสะท้อนว่าบริษัทฯ สามารถมีผลกำไรและรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน”นายนิติพัทญ์ กล่าว
สำหรับ ไตรมาส 2 /2562 นี้บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 102.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 94.58 ล้านบาท เป็นผลจากการบริหารจัดการภายในระหว่างพนักงานและบริษัท จึงทำให้ยอดขายของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุน IPO ไปชำระเงินกู้ของสถาบันการเงิน เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
นายนิติพัทญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับแผนระยะยาว ในปี 2562-2565 หรือ 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ คาดจะมีพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อประมาณ 5 พันสัญญา ทำให้คาดว่าบริษัทฯ จะครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 จากปัจจุบันที่อยู่อันดับ 2-3 ของอุตสาหกรรม
