ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยงานเสวนาในหัวข้อ “กระชากปม 5G ไปไม่ถึงฝัน” ว่า แผนการจัดสรรคลื่นความถี่ยังเป็นไปตามแผนทั้งหมดไม่คลาดเคลื่อน โดยจะมีการจัดสรร 2600, 700 เมกะเฮิรตซ์ 26-28 กิกะเฮิรตซ์ แล้วเสร็จในปลายปี 62 และเริ่มกระบวนการประมูล ปี 63 และจะต้องขยับโรดแมปเร็วขึ้น ให้เริ่มใช้งานได้ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.63 เพื่อให้ทันกับเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่มีแผนจะเปิดใช้เชิงพาณิชย์ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. 63 ส่วน ญี่ปุ่น จีน จะเปิดในงานโอลิมปิกเดือน ก.ค. 63
ทั้งนี้ คาดจะสามารถเปิดใช้ 5G บางพื้นที่ก่อน เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าได้เร็วขึ้น และนักลงทุนไม่ย้ายฐานไปอยู่ประเทศที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม กระบวนการจัดสรรคลื่น 2600 MH อยู่ระหว่างเรียกคืน จึงมีแผนตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อหาทางออก 3 เงื่อนไข ได้แก่ 1. มูลค่าคลื่นความถี่ ที่คาดหวังจากการประมูลคลื่นความถี่ครั้งที่ผ่านมาที่ 2. การลงทุนของโอเปอเรเตอร์ และ 3.การต่อยอดการทำงาน การนำไปใช้งาน โดยจะดึงหน่วยงานภาครัฐทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการต่อยอดทันที และทำให้โอเปอเรเตอร์เกิดความมั่นใจในการลงทุนเพิ่มขึ้น
นางอเล็กซานดรา ไรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในเรื่อง 5G แต่ต้องดูผลด้วยว่าจะเกิดอย่างไร ทั้งนี้ คิดว่าปี 63 อาจจะเร็วเกินไป และ ปี 64 น่าจะเหมาะสมมากกว่าเพราะจะมีความพร้อมทั้งการลงทุน ผลการทดสอบการนำ 5G ไปใช้ ซึ่งภาครัฐต้องคิดถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในระยะยาวด้วย
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะบริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์เปอเรชั่น หรือ WHA กล่าวว่า ในฐานะผู้สนับสนุนนิคมอุตสาหกรรม ยังไม่ได้รับความชัดเจนว่าคุ้มค่าการลงทุนคุ้มหรือไม่ ทั้งภาคการผลิต ภาคพลังงาน ภาคขนส่ง และไม่ได้รับการติดต่อให้ข้อมูลเลย อย่างไรก็ตาม วันนี้ WHA พร้อมจะเป็นผู้ประสานให้ทุกฝ่ายได้คุยกันเพื่อทำเข้าใจ การพัฒนา 5G จะไปถึงฝันได้ น่าจะมีการหารือกับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการทดสอบการนำเทคโนโลยีไปใช้ร่วมกัน
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการเกิด 5G มองว่ามี 3 ด้านคือ 1.เชิงเศรษฐกิจ 2.ด้านสังคม และ 3.ด้านการเมือง ทั้งนี้ ด้านเศรษฐกิจนั่น 5จี ทำให้การเชื่องโยงในการติดต่อกันรวดเร้วขึ้น เกิดความสะดวกสบาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เกิดความสามารถในการแข่งขันประเทศ เกิดการดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ เกิดนวัตกรรมใหม่
www.mitihoon.com