EPG หุ้นน้ำดีออเดอร์ทะลัก กำไรQ2พุ่ง-วิ่งชน9.40บ. (26/09/62)

97

มิติหุ้น-EPG ชี้ไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ก.ย.62) ฟันกำไร 270-290 ล้านบาท แถมไตรมาส 3/63 พีคสุดแห่งปี เหตุทุกธุรกิจโตฉลุย Aeroflex ลุยอัพฐานการผลิต, ธุรกิจ Aeroklas ชูกลยุทธ์ลดต้นทุน ส่วน ‘ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (EPP)’ ขานรับไฮซีซันหนุนสินค้าขายดี แถมรับอานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกลดลง หนุนมาร์จิ้นพุ่ง 28-30% ชี้เป้า 9.40 บาท อัพไซด์เกิน 30%

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า  บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป หรือ EPG ทำธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก โดย “บล.เคทีบี (ประเทศไทย)” เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ก.ย.62) คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 270-290 ล้านบาท เติบโตทั้งจากไตรมาส 1/63 ที่มีกำไรสุทธิ 215.94 ล้านบาท และไตรมาส 2/62 ที่มีกำไรสุทธิ 262.21 ล้านบาท ส่วนช่วงไตรมาส 3/63 (ต.ค.-ธ.ค.62) กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดแห่งปี เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน

ชี้ทุกธุรกิจโตฉลุย

โดย “ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (EPP)” จะโดดเด่นที่สุด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม food packaging และสินค้าใหม่แบรนด์ “eici” ที่เน้นลูกค้ากลุ่ม mass ที่มียอดขายเติบโตขึ้นมาก นอกจากนั้นจะได้ผลบวกจาก GPM ที่จะดีขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยได้ปรับขึ้นเป็น 18.5% จากเดิม 15% เพราะต้นทุนวัตถุดิบ PP, PS และ PET ในสต๊อกที่ต่ำลง, อัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น, การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร

ขณะที่ “ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น (Aeroflex)” จะมีกำลังการผลิตใหม่ในช่วงปลายปีนี้เพิ่มขึ้น 5,000 ตัน/ปี เริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 4/63 (ม.ค.-มี.ค.63) บางส่วน และจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้าราว 800 ล้านบาท ส่วนรายได้หลักในตลาดสหรัฐและญี่ปุ่นจะยังคงเติบโตดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกรด premium ที่มี GPM สูง

ด้าน “ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ (Aeroklas)” จะได้ผลบวกจากแผนลดต้นทุนของ TJM ที่ประเทศออสเตรเลีย คาดว่าจะขาดทุนลดลงเหลือ 100 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุน 140 ล้านบาท ส่วนยอดผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศยังเติบโตได้จากคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น

โชว์กำไรแรง22%

ดังนั้นในปี 63 (เม.ย.62-มี.ค.63) คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.10 พันล้านบาท เติบโต 22% จากปีก่อน เนื่องจากมีการปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 28.2% จากเดิมที่ 27.5% และดีขึ้นจากปีก่อนที่ 27.3% จากแผนลดต้นทุน, อัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบเม็ดพลาสติกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง (HDPE, PP, PET; figure 2-4)โดยเฉพาะในกลุ่ม EPP และ Aeroklas  จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 9.40 บาท อัพไซด์เกิน 30%

จัดทัพรุกต่างประเทศ

ด้าน“นายเฉลียว วิทูรปกรณ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ก.ย.62) จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/63 เพราะทุกธุรกิจเติบโตได้ดี โดยกลุ่มธุรกิจ Aeroflex”  จะเดินเครื่องผลิตของโรงงานใหม่ กำลังการผลิตราว 5,000 ตัน/ปี ได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือเดือนก.ย.-ต.ค.62  และ “ธุรกิจ Aeoroklas” มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง  ส่วน “ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ EPP” จะเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาส 3-4/63 เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเทศกาลท่องเที่ยวทำให้ออเดอร์เข้ามาสูงขึ้น

ทั้งนี้บริษัทจะทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ และ CLM เพิ่มเติม ดังนั้นมั่นใจว่าจากการเติบโตของยอดขาย 3 ธุรกิจหลักจะผลักดันให้รายได้ปี 63 (เม.ย.62-มี.ค.63) เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน  ด้านอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นแตะ 28-30% จากปีก่อนที่ 27-28% เพราะได้รับอานิสงส์ราคาวัตถุดิบประเภทเม็ดพลาสติกลดลง 10-20% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น

www.mitihoon.com