CWT ปรับโครงสร้างธุรกิจ-ชี้รถ EVดันกำไรนิวไฮ

393

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT โดย “นายวีระพล ไชยธีรัตต์” กรรมการ ผู้จัดการ เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติปรับโครงสร้างโดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer : PBT) และอนุมัติให้มีการจัด “ตั้งบริษัทย่อย” เพื่อรับโอนกิจการบางส่วน

ได้แก่ ธุรกิจฟอกหนังสัตว์ โดยกิจการผลิตและจำหน่ายซึ่งมีผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก ,2. ผลิตภัณฑ์ของเล่นสัตว์เลี้ยง, 3. ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หนัง, 4. ผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ รวมถึงทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว สัญญา ใบอนุญาตและบัตรส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวทั้งหมด ให้แก่ บริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อรับโอนกิจการดังกล่าว (“บริษัทย่อย”) โดย CWT จะถือหุ้นในสัดส่วน 100%ในบริษัทย่อย โดยการโอนกิจการทั้งหมดคาดจะมีมูลค่าประมาณ 445 ล้านบาท และการโอนกิจการครั้งนี้จะไม่กระทบต่อทรัพย์สินรวมของกลุ่มบริษัทแต่อย่างใด

โดยเบื้องต้น บริษัทคาดว่ากระบวนการโอนกิจการบางส่วนนี้ จะเริ่มและดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปี 2563 CWTจะหยุดดําเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับสายงานการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฟอกหนังสัตว์ทั้งหมด และให้บริษัทย่อยเป็นผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวต่อไป และ CWT จะลงทุนผ่านบริษัทย่อย และบริษัทร่วมต่างๆ รวมถึงการประกอบ และ/หรือลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ และกำไรเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นต่อไป

สำหรับแนวโน้มผลงานไตรมาส 3/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะทุกธุรกิจเติบโตได้ดี  ส่วนช่วงไตรมาส 4/62 จะสรุปแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะ 2 โครงการ รวม 18 MW งบลงทุนรวมราว 2.4-2.8 พันล้านบาท (1.2-1.4พันล./แห่ง)

ส่วนทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิจะทำนิวไฮ และรายได้จะเติบโตที่ระดับ 2 พันล้านบาท  เพราะรับรู้รายได้จาก “ธุรกิจพลังงาน” เต็มปี  อย่างโรงไฟฟ้าโซลาร์ 5 MW และโรงไฟฟ้าชีวมวล 8 MW รวม13 MW ทั้งนี้จะรับรู้รายได้จาก “ธุรกิจต่อเรือ” ของ“บจ.สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น หรือ Sakun C (CWTถือหุ้น 50.01%) เข้ามา 200 ล้านบาทด้วย

ขณะที่ปี 63 คาดกำไรนิวไฮต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้รวมทะลุ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นปีที่รายได้ธุรกิจใหม่สูงกว่าธุรกิจเดิม นั้นคือ “ธุรกิจรถมินิบัส” ที่ดำเนินการโดย  Sakun C ล่าสุดมียอดจองเข้ามาแล้ว208 คัน มูลค่า 463.15 ล้านบาท จะเริ่มทะยอยส่งมอบในช่วงไตรมาส 1/63 ทั้งนี้ช่วงเดือน พ.ย.62 จะมีงาน “Bus & Truck 2019” คาดจะมียอดจองเข้ามามากขึ้น

นอกจากนี้ Sakun C ยังได้รับงานปรับปรุงรสบัสนำเที่ยว “ไจแอ้นท์ ซิตี้ ทัวร์” ของ “บจ.อะเมซิ่ง บัสทัวร์”ซึ่งเป็นรถบัสให้บริการแบบ Hop on Hop off แห่งแรกในกรุงเทพฯ โดยจะปรับปรุงรถ (Retrofit) ให้เป็นรถบัสไฟฟ้า EV Bus จำนวน 12 คัน กว่า 84 ล้านบาท เพื่อตอบสนองตามนโยบาย Bangkok Green City คาดจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 4/62

ด้าน “ธุรกิจต่อเรือ” ของ Sakun C อยู่ระหว่างเจรจารับงาน “โครงสร้างการต่อเรือไฟฟ้า” ให้กับ “บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA” มูลค่า 20 ล้านบาท/ลำ  ขณะที่ “ธุรกิจมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า” ที่ได้ร่วม “บ.โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่งหรือ CNCH” เข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงสำหรับการร่วมมือในทำการวิจัยและพัฒนา รวมถึงออกแบบการผลิต และทำการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV Motorbike) ให้กับ “บ.อีทราน (ไทยแลนด์)หรือ ETRAN” โดย ETRAN ได้เจรจาว่าจ้างทำการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่น PROM จำนวน 3,000 คัน โดยจะเริ่มผลิตช่วงเดือน พ.ย. 62 และมีแผนส่งมอบภายในไตรมาส 1/63

ส่วนปี 64 คาดรายได้รวมทะลุ 4 พันล้านบาท และ บริษัทมีแผนผลักดัน SAKUN C เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 65 ด้วย