‘แอล เอช ฟันด์’ปักธงAUMโต40% มองดัชนีหุ้นไทยปีนี้มีลุ้น2,000จุด

83

มิติหุ้น – “แอล เอช ฟันด์” กางแผนปี 61 ตั้งเป้า AUM โตเพิ่ม 40% จากปีก่อน ชูกลยุทธ์ ‘Assets Allocation’ แนะจัดพอร์ตลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้และสถานการณ์แต่ละช่วง พร้อมออกกองทุนใหม่ต่อเนื่อง

นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า ในปี่นี้บริษัทตั้งเป้าผลักดัน AUM เติบโตเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่ผ่านมาเป็นประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท โดยวางแผนออกกองทุนใหม่เพิ่มเติม หลังจากเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวกองทุน ‘แอล เอช โรโบติกส์-E’ ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ผ่านกองทุนรวมชั้นนำในต่างประเทศ ซึีงได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย จนต้องยื่นขอเพิ่มทุนจดทะเบียนถึง 2 ครั้ง

ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดตัวกองทุนแอล เอช อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-E (LHEM-E) ซึ่งเป็นกองที่ 2 ของปีนี้ โดยเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนเป็นครั้งแรก (IPO) ในเร็วๆนี้ ในส่วนของพอร์ตกองทุน Private Fund ของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) โตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงกว่า 60%

หุ้นไทยปีนี้ลุ้น 2,000 จุด

ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นในไทยและต่างประเทศ ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นแตะระดับ 2,000 จุด แต่อาจมีความผันผวนเกิดขึ้นระหว่างทาง ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศน่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับเพิ่มประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ดังนั้น ในปี 2561 แอล เอช ฟันด์ จึงมีแผนงานเปิดตัวกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพ หรือผ่านการลงทุนในกองทุน ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยการคัดเลือกอุตสาหกรรมหรือประเทศที่จะเข้าลงทุนนั้น จะพิจารณาจากแนวโน้มระยะยาวหรือ ‘เมกะเทรนด์’ ที่จะเป็นทิศทางขาขึ้นต่อไปได้อีก 3-5 ปีข้างหน้าเพื่อสอดรับกับแนวทางการลงทุนระยะยาว

ขณะเดียวกัน ยังจะใช้กลยุทธ์ ‘Asset Allocation’ ซึ่งเป็นการแนะนำการจัดพอร์ตลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ พร้อมให้คำแนะนำการปรับพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดยมีผู้จัดการกองทุนและทีมงานทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบ เพื่อให้คำแนะนำแก่นักลงทุนที่เป็นลูกค้าของแอล เอช ฟันด์ ทุกๆ ไตรมาสเพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทและลดผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ

ที่มา : บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

เรียบเรียง : พรเพ็ญ เวชกามา