นักลงทุนไม่ได้คาดหวังสูงนัก ก่อนการเจรจาทางการค้าครั้งล่าสุดระหว่างผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ กับจีนวันที่ 10-11 ตุลาคม ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่าเงินหยวน และอัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นรับข่าวการบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญขั้นแรกของสหรัฐฯ และจีน ส่วนเงินเยนซึ่งถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงนั้น กลับอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยร่างดีลขั้นแรก และส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการลงนามในข้อตกลงการค้าอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้นำจีนในการประชุมสุดยอดเอเปกในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ดี จีนยังคงแสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง โดยระบุว่าต้องการจะเจรจาเพิ่มเติมในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อจะตกลงกันเรื่องรายละเอียดในข้อตกลงการค้า “ขั้นแรก” ก่อนที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะลงนามอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ดังกล่าวกลับมาปกคลุมบรรยากาศการซื้อขายในตลาดการเงินทั่วโลกอีกครั้ง และสะท้อนความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
เงินหยวนทรงตัวหลังทะยานขึ้นแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน (กราฟด้านล่าง) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นทั่วโลก ปรับตัวลงหลังจากดีดตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนเงินเยนและราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยตลาดต้องการรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นในข้อตกลงการค้าขั้นแรก และดีล Brexit แบบนาทีสุดท้ายอาจไม่ง่าย หลังฟินแลนด์ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรป (อียู) เผยว่าการเจรจาต่อรองจำเป็นต้องใช้เวลานาน และอาจลากยาวต่อไปหลังการประชุมสุดยอดอียูวันที่ 17-18 ตุลาคม ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป
เราประเมินว่า ในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนอดทนต่อความเสี่ยงน้อยลง และตลาดเทรดบนความหวังที่ว่าผู้ดำเนินนโยบายการเงินและการคลังของเศรษฐกิจหลัก จะใช้มาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยข้อตกลงทางการค้ารอบล่าสุดไม่สามารถโน้มน้าวใจให้ตลาดเชื่อได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนเกม นักลงทุนกำลังรอดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเจรจาการค้ารอบต่อไป ซึ่งต้องเป็นข้อมูลที่เป็นรูปธรรม ขณะที่จีนต้องการให้ทรัมป์ยกเลิกแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในเดือนธันวาคมหลังจากสหรัฐฯ เพิ่งยกเลิกแผนการปรับขึ้นภาษีในสัปดาห์นี้ไปแล้ว
ส่วนความเสี่ยงด้านขาลงของเงินเยนจะเป็นไปอย่างจำกัด ตราบใดที่นักลงทุนต้องถูกบังคับให้กลับมายืนจุดเดิมคือจุดที่ต้องยอมรับความจริง ว่าการปิดดีลเพื่อหยุดยั้งโมเมนตัมเชิงลบของการค้าโลกยังเผชิญความท้าทายอีกยาวไกล ขณะที่เงินบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีมีแนวโน้มเกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินภูมิภาคมากขึ้น และผันผวนไปตามกระแสข่าวที่กระทบทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจการค้าโลกหลังจากเงินบาทแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญ ทิ้งห่างสกุลเงินคู่แข่งและคู่ค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี
โดย คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
www.mitihoon.com
