มิติหุ้น-บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP)โดยนางมัณฑนา เอื้อกิจขจร รองกรรมการผู้จัดการ งานวางแผน เปิดเผยว่า ภายหลังโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเริ่มจ่ายไฟเชิงเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 29 ต.ค. 2562 กำลังผลิตทั้งหมด 1,285 MW เพื่อขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)สัดส่วน 95 % ของกำลังผลิตทั้งหมด 1,285 MW และ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (Electricite du Laos) 5% ในอัตรา 2 บาท/หน่วย นั้นคาดว่า โรงไฟฟ้าไซยบุรีจะสามารถสร้างรายได้ปีละ 1.3 -1.4 หมื่นล้านบาทและมีอัตรากำไรที่ราว 12-15% ต่อปีหรือราว 4,000-5,000 ล้านบาท/ปี
โดย CKP จะรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าไซยบุรี ( CKP ถือสัดส่วน 37.5 %)ราว 1,300-1,400 ล้านบาท หรือตกเฉลี่ยเดือนละกว่า 100 ล้านบาท หรือเติบโตเป็ฯตัวเลข 2 หลัก ส่วนเป้าหมายรายได้และกำไรปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้แตะ 9,000 ล้านบาท และที่กำไรสุทธิ 599 ลบ. ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งช่วงไตรมาส3/2562 ก็ตาม แต่ยังมีการขายไฟเพิมเติมจากโครงการ BIG2 เต็มที่เข้ามาทดแทนด้วย รวมทั้ง โครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรีก็ยังจะมีการรับรู้กำไรเข้ามาช่วง 2 เดือนสุทด้ายด้วย
ด้าน นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ CKP กล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนในอนาคตยังคงเน้นลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหลัก ซึ่งสนใจอยู่ 2 โครงการคือที่ สปป.ลาว และที่บริเวณแม่น้ำสาละวิน ที่ประเทศเมียนมานอกจากนี้ยังมี โครงการโซลาร์ รูฟท็อปด้วย เพื่อให้เป้นไปตามเป้าหมายปี 2568 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ 5,000 MW จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,167 MW
www.mitihoon.com