มิติหุ้น-บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์เดิมชื่อ บริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (FC) แจ้งว่า ตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (PRIME) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 และวันที่ 29 เมษายน 2562 ได้มีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนธุรกิจใหม่ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการดังนี้
1) ซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท ไพร์ม โรด อัลเทอร์เนทีฟ จำกัด (PRA) ซึ่งประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีบริษัท ไพร์ม โรด โซลาร์ จำกัด เป็นบริษัทแกน ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยบริษัทได้ชำระค่าตอบแทนด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 14,881,481,481 หุ้น ให้กับบริษัท พีอาร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (PRGD) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ PRA ในราคาหุ้นละ 0.27 บาท มูลค่ารวม 4,018 ล้านบาท
2) ขายธุรกิจเดิมออกไป ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ เนื่องจากไม่มีนโยบายทำธุรกิจดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวมีขนาดรายการร้อยละ 2,394 ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่มิใช่บริษัทจดทะเบียนและเข้าข่ายจดทะเบียนก ับตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอ้อม (Backdoor Listing) ซึ่ง PRIME ได้ยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าหุ้นสามัญของบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ * ประกอบกับบริษัทได้ดำเนินการตามเงื่อนไขการรับหลักทรัพย์ โดยนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรให้กับ PRGD ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด จำนวน 14,881,481,481 หุ้น ซึ่งเป็นการเสนอขายในราคาต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด มาฝากไว้ที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (Silent Period) แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนซื้อและรับโอนกิจการกำหนดจะเลิกกิจการเพื่อชำระบัญชีของ PRGD ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งผู้ถือหุ้นของ PRGD ตกลงจะนำหลักทรัพย์ของ PRIME ที่ได้รับโอนคืนจาก PRGD มานำฝาก Silent Period ต่อจาก PRGD จนครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อให้หลักทรัพย์ของ PRIME อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับลักษณะการประกอบธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรกำหนดให้หุ้นสามัญและหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PRIME เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในกลุ่มทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป
www.mitihoon.com