มิติหุ้น-บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) โดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้รวม 133,969 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.9% และมีกำไรสุทธิ 24,019 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.1% จากปีก่อน ถือเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวของไทยที่สร้างผลกำไรในระดับหมื่นล้านมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงลงทุนเพื่อพัฒนาเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 20,000 – 25,000 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่โครงข่าย 5G ในอนาคต”
สำหรับภาพรวมในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายได้ยังคงเติบโตขึ้น 4.3% จากการใช้งานของลูกค้า 4G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในตลาดอยู่ที่ 41.6 ล้านเลขหมาย และมีลูกค้า 4G จำนวน 28.5 ล้านราย มีการใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 12.1 กิกะไบต์ต่อเดือน ล่าสุด Ookla® Speedtest® ได้เผยผลสำรวจความเร็วเน็ตของไทย ครึ่งปีแรก2562 จัดอันดับให้บริษัทเป็นเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทย, เครือข่ายมือถือที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย และเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุดในไทย เป็นการการันตีคุณภาพเครือข่ายและการบริการที่เหนือคู่แข่ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าและคนไทย
ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง โดยมีรายได้รอบ 9 เดือนเติบโตขึ้น 29% และในไตรมาส 3 ปี 2562 มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 81,600 ราย สูงที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส ทำให้ในปัจจุบัน AIS Fibre มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 937,000 ราย มุ่งสู่เป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ ด้วยกลยุทธ์เน้นหลายบริการในแพคเกจเดียวสำหรับครอบครัว รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านช่องทางจัดจำหน่ายที่สะดวกและตอบโจทย์ลูกค้า ผ่านทาง LINE Official Account, Website, AIS Call Center 1175 ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเน็ตบ้านตัวจริง การันตีด้วยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทย จาก Ookla® Speedtest®
“ส่วนผลประกอบการ ไตรมาส 3 ปี 2562 เอไอเอส ยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 นับเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 5 ไตรมาส ติดต่อกัน”
ทั้งนี้ เอไอเอส ยังคงเน้นย้ำหัวใจสำคัญของการวางรากฐานการเติบโตในอนาคต ยกระดับงานบริการเพื่อการดูแลลูกค้าให้ “อุ่นใจ…ได้มากกว่า” ใน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ 1. พัฒนาเครือข่ายแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G ในอนาคตด้วยการทดสอบ NEXT G+ ที่ควบรวมความเร็วระหว่าง 5G กับ AIS Super WiFi ทำให้ได้ความเร็วที่มากกว่า 5G สูงสุดถึง 2 Gbps บนมือถือ 5G เป็นครั้งแรกของโลก พร้อมเดินหน้าขยายโครงข่ายเทคโนโลยี Massive MIMO และพัฒนาโครงข่ายให้มีอัตราการตอบสนองได้เร็วขึ้น และมีค่า Latency ต่ำเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ 5G
- ยกระดับสินค้าและบริการที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเพื่อคนไทย
นำเสนอผลิตภัณฑ์สู่เซกเมนต์ใหม่ๆ ล่าสุด AIS eSports ผนึกกำลังกับ Facebook Gaming มอบประสบการณ์ดูไลฟ์สตรีมมิ่ง ร่วมยกระดับอุตสาหกรรมเกมไทยสู่สากล และการรุกสู่ธุรกิจใหม่ AIS Insurance Service บริการประกันภัยออนไลน์ ส่งเสริมคนไทยเข้าถึงประกันภัยง่ายขึ้น
- สร้างประสบการณ์ที่ดี เข้าถึงลูกค้าทุกเจเนอเรชัน
ด้วยการเปิดตัว AIS DigitALL Shop ช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตลอดจนแอปพลิเคชัน my AIS ให้ลูกค้าทำธุรกรรมออนไลน์ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง พร้อมส่งมอบสิทธิพิเศษที่ตรงใจกับโปรแกรม AIS Points และส่วนลดแบรนด์ดังทั่วประเทศ
- ดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี
ผลักดันสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืนผ่านแนวคิด “ถ้าเราทุกคน คือเครือข่าย” กับโครงการ “อุ่นใจไซเบอร์” เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้านออนไลน์ให้กับคนไทย มุ่งพัฒนาทักษะความฉลาดด้านดิจิทัล DQ และสร้างเครื่องมือป้องกันเนื้อหาบนโลกออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม พร้อมเป็นแกนกลางรับและกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ E-Waste อย่างถูกวิธี
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ระบุว่า กไรปกติของ ADVANC อยู่ที่ 8.46 พันลบ. เพิ่มขึ้น+5.6 % จากไตรมาสก่อนหน้า และ +24.4 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ARPU ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่กลับโต 3.4 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน NET ADD กลับมาบวกอีกครั้ง ธุรกิจ Broadband และธุรกิจ enterprise โตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ต้นทุน TOT ลดลง จึงคงแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สินปี 2563 ที่ 260 บาท/หุ้น
ขณะที่เงื่อนไขการประมูลที่ผ่อนปรยและราคาตั้งต้นที่ไม่สูง ทำให้แรงกดดันด้านต้นทุนจำกัด คาดไม่กระทบการจ่ายปันผลแม่ต้องลง 5G และเชื่อว่าในระยะยาวประโยชน์ของ 5G มีโอกาสสูงกว่าต้นทุนส่วนเพิ่ม
www.mitihoon.com