กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.00-30.40 คาดกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% หลังเศรษฐกิจชะลอตัว

36

มิติหุ้น-กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.40 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.17 ต่อดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า ปี อีกครั้ง  ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6.5 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ย่อตัวลง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ 1.50-1.75% และส่งสัญญาณว่าอาจหยุดลดดอกเบี้ยในระยะถัดไปยกเว้นว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลง

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ และความคืบหน้าประเด็นการค้า หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ออกมาสดใสเกินคาด ส่วนประธานเฟดระบุว่ามีความหวังว่าสหรัฐฯ และจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งอาจช่วยลดความไม่แน่นอนลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปี 2563 หากแรงส่งด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจแผ่วลง นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ลดลงแต่ค่าเงินปอนด์จะยังคงมีทิศทางผันผวนก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 12 ธ.ค.

สำหรับปัจจัยภายในประเทศคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ในการประชุมวันที่ พ.ย. ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อทั่วไปต่ำสุดในรอบ 28 เดือน ขณะที่ธปท.ระบุว่าการส่งออกเดือนก.ย.หดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่วนการบริโภคภาคเอกชนเติบโตใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าแม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐแต่กำลังซื้อโดยรวมอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยทางการมองว่าจีดีพีไตรมาส 3/2562 อาจต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ว่าจะเติบโต 2.9% อย่างไรก็ดี ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีจะกระเตื้องขึ้นจากมาตรการภาครัฐและการท่องเที่ยว อนึ่ง เรามองว่าหากกนง.ตัดสินใจคงดอกเบี้ยในรอบนี้ ยังคงมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบาย การประเมินความเสี่ยงด้านต่ำของเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านเสถียรภาพในระยะยาวจะเป็นประเด็นที่กระทบราคาสินทรัพย์สกุลเงินบาท