3 กูรูแนะเก็งกำไร TOP ให้เป้าสูงสุด 108 บาท/หุ้น

204

มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ใน 4Q60 อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท(+19% YoY, -9% QoQ) สูงกว่า Bloomberg consensus 4% และสูงกว่า ประมาณการของเรา 6% โดยมีสาเหตุ สำคัญมาจากกำไรจากสต็อก3.3 พันล้านบาท (เราคาดไว้ แค่ 1.5 พันล้านบาท) ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มีสาเหตุสำคัญมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 677 ล้านบาท จากที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 870 ล้านบาทใน 4Q59 แต่อย่างไรก็ตาม กำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้นจากทั้งการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่ำของเรือบรรทุกน้ำมัน หนึ่งลำ 547 ล้านบาทและการจ่ายโบนัส พนักงาน ซึ่งถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะดีกว่าทั้ง Blomberg consensus และประมาณการของเรา แต่เรายังคงคำแนะนำ  “ถือ” TOP และ ให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 95.00 บาท อิงจาก EV/EBTIDA ที่ 6.5x เราประเมินว่ากำไรสุทธิของ TOP จะลดลงใน 1H61 เนื่องจำก i) ต้นทุน Murban crudepremium มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ii) น่าจะมีขาดทุนจากสต็อกใน 1Q61 และ iii) spread ของผลิตภัณฑ์จากการ กลั่นมักจะลดลงในไตรมาสที่สองจากอุปสงค์ที่ต่ำตามฤดูกาลซึ่งจากปัจจัยลบระยะสั้นดังกล่าว เราจึงแนะนำให้ขาย TOPเพื่อทำกำ ไรไปก่อน

ด้าน บล.เอเอสแอล ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ของ TOP เพิ่มจากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันและค่าการกลั่นพื้นฐานเพิ่มขึ้นและได้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 108 บาท (วิธี EV/EBITDA ที่ 6.2x) แต่หากเทียบกับราคาปัจจุบัน Upside เริ่มจำกัดประกอบกับแนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q61 มีโอกาสอ่อนตัว QoQ และ YoY จากแนวโน้มค่าการกลั่นที่ลดลง ราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่มากจากสิ้นปี 60 และ Murban Crude Premium ที่ยังคงปรับเพิ่มในช่วง1Q60 (Crude Premium ในเดือน ม.ค. 61 อยู่ที่ 3.6 เหรียญต่อบาร์เรล) เป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการในระยะสั้น ทำให้เราปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “เก็งกำไร”

ขณะที่ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” TOP  ราคาพื้นฐาน 105 บาท ด้านแนวโน้มไตรมาส1/2561 คาดอ่อนตัวเทียบกับช่วงไตรมาสต่อไตรมาส แม้วการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นยังอยู่ในระดับสูง และสเปรดอะโรเมติกส์ที่ยังทรงตัว แต่ค่าการกลั่นมีแนวดน้มลดลง โดยค่าการกลั่น Singapore  GRM ไตรมาส1/2561 ลดลงมาที่ 6.6 เหรียญต่อบาร์เรล (จากไตรมาส4/2560 ที่ 7.2 6 เหรียญต่อบาร์เรล) โดยหลักจาก Murban crude premium ซึ่งเป็นต้นทุนในการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่โครงการ CFP คาดมีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย( FID) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 และจะเริ่มดำเนสินการได้ปี 2565 ด้านราคาหุ้นที่อ่อนตัวลง