‘ซาบีน่า’ ปลื้มยอดขายกลุ่มประเทศ CLMV ไตรมาส 3 โต 102% ชี้เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 7% ปัจจัยหลักหนุนส่งออกพุ่ง

203

มิติหุ้น-  “ซาบีน่า” เผยผลงานไตรมาส ยอดขายสินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ที่ส่งออกไปในกลุ่มประเทศ CLMV เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสูงถึง 7.1%   ขณะที่การเปิดตัวคอลเลคชั่น “บอดี้ บรา” ที่มี “ใบเฟิร์นพิมพ์ชนก” เป็นพรีเซนเตอร์ ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนคลับเวียดนามคึกคักมาก ลั่นพร้อมเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ ของบริษัทฯ ส่วนหนึ่งมาจากยอดขายสินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ผ่านช่องทางการส่งออกไปยังประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาวเมียนมา และเวียดนาม) ที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดสำคัญได้แก่ เวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส สูงถึง 7.1%

“ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจเวียดนามคึกคักมาก และผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ขณะที่สินค้าแบรนด์ซาบีน่า ทั้งดีไซน์และคุณภาพ รวมถึงราคา เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคเวียดนามอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ การที่เราเปิดตัวคอลเลคชั่นบราเกาะอก “บอดี้ บรา” โดยมีใบเฟิร์นพิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นพรีเซนเตอร์ ยิ่งกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคเวียดนามได้เป็นอย่างดี เพราะใบเฟิร์นมีแฟนคลับ ทั้งในเวียดนาม จีน และฟิลิปปินส์ ที่ติดตามโซเชียลของใบเฟิร์นเป็นจำนวนมาก เมื่อผนวกกับสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ก็ยิ่งทำให้เกิดการซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น” นายบุญชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ อาจจะไม่ได้รับปัจจัยบวกอย่างเต็มที่จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่ซาบีน่าก็ได้รับผลดีจากการปริมาณสินค้าที่ขายได้เพิ่มขึ้นและการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ยังมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่น่าพอใจ ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นเอื้อกับต้นทุนการผลิตโดยรวมที่ต่ำลงจากการจ้างผลิต และส่งผลดีกับการขายในช่องทางออนไลน์และช่องทางรีเทล ทำให้บริษัทฯ ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ ของปีนี้ (กรกฎาคมถึงกันยายน) บริษัทฯ  มีรายได้รวมอยู่ที่  847.5 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 116.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3 ล้านบาทคิดเป็น 5.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยช่องทางขายออนไลน์ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 7.3% ขณะที่ช่องทางรีเทล ผ่านทั้งเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช้อป ลดลง 2.6% การส่งออกภายใต้แบรนด์

“ซาบีน่า” ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ขยายตัว 102% และการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ในยุโรป ลดลง 11.9% ตามภาพรวมเศรษฐกิจโลกจากการไม่แน่นอนของสงครามการค้า ส่วนรายได้ 9 เดือนแรก (มกราคมถึงกันยายน) อยู่ที่ 2,490.6 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 316.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 10.6%  

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวด้วยว่า ซาบีน่ายังคงเดินหน้าที่จะทำตลาดในทุกช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และช่องทางรีเทล โดยล่าสุดได้ผนึกความร่วมมือกับ “โพเมโล” ผู้บริหารเว็บไซต์ www.pomelofashion.com ซึ่งเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รายใหญ่ที่เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงของใช้ของผู้หญิงมีผู้เข้าชมมากกว่า 2.7 ล้านคนต่อเดือน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของโพเมโล สามารถนัดรับสินค้าและลองสินค้าได้ที่ซาบีน่า ช้อป 23 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เป็นบริการ Pomelo Pick Up ลองก่อน จ่ายทีหลัง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินเฉพาะชิ้นที่พึงพอใจได้เลย หากยังไม่ถูกใจก็สามารถคืนสินค้าผ่านซาบีน่า โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ซาบีน่าได้มอบให้โพเมโลเป็นช่องทางขายออนไลน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียงช่องทางเดียวสำหรับสินค้าคอลเลคชั่น แมด มัวแซล อินทิเมทส์” (Mad Moiselle Intimates) ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มไฮแฟชั่น (High Fashion) ของซาบีน่า ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก  โดยความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่า จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีนี้ให้คึกคักขึ้นได้อย่างแน่น

www.mitihoon.com