มิติหุ้น- NOKหวังหยุดขาดทุนปีนี้ ตั้งเป้าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารโต 92% เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินเพิ่มเส้นทางบิน 3 แห่งในอินเดีย ปรับบินเข้าจีนประจำจากที่เช่าเหมาลำ เล็งป้องกันความเสี่ยงน้ำมันมากกว่า6เดือน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สายการบินนกแอร์ หรือ NOK โดยนายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งเป้าปี 2561 จะสามารถหยุดขาดทุน และตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท จากปี 2560 มีรายได้รวมที่ 20,376 ล้านบาทเนื่องจากการดำเนินตามกลยุทธ์แผนฟื้นฟู โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ ดำเนินการลดต้นทุนในเรื่องการซ่อมบำรุงเครื่องบิน การปลดระหว่างเครื่องบินเก่า พร้อมกับบริหารจัดการฝูงบินและเครือข่ายเส้นทางบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการใช้ประสิทธิภาพเครื่องในระดับ 12 ชั่วโมงต่อวันจากปัจจุบันเฉลี่ยในระดับ 10.4 ชั่วโมงต่อวัน ตลอดจนจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายตั๋วให้มากขึ้น
“การเพิ่มความถี่การบิน เช่น เส้นทางบินเข้าจีนในช่วงกลางคืนเพิ่มขึ้น การใช้งานของเครื่องบินที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ นกแอร์จะมีการพัฒนารูปแบบธุรกิจบางส่วนให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้โดยสารในปัจจุบันโดยการดำเนินตามแผนฟื้นฟู ขณะเดียวกันคาดว่าท่องเที่ยวในไทยจะเติบโตมากขึ้นจากปัจจัยกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐบาลจึงคาดว่านักท่องเที่ยวจะเติบโตขึ้น”นายปิยะ กล่าว
ขณะเดียวกันในปี 2561 ยังได้ตั้งเป้าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในปี 2561 ให้เฉลี่ยในระดับ 92% จากปี 2560 คาดว่า Cabin Factor เฉลี่ยในระดับ 86% ส่วนผู้โดยสารของสายการบินนกแอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9 ล้านคนจากปี 2560 มีผู้โดยสาร 8 ล้านคนและมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารเพิ่มขึ้น29% โดยคาดว่าการท่องเที่ยวยังคงเติบโตต่ออย่างต่อเนื่องในปีหน้าและเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ส่วนอัตราการทำรายได้ต่อผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (Passenger yield) คาดว่าจะอยู่ในระดับ 5%
นอกจากนี้แล้ว NOK ยังจะดำเนินการทยอยปรับเที่ยวบินเข้าจีน 19 เส้นทาง 14 เมืองจากบินเช่าเหมาลำเป็นบินประจำ รวมถึงปรับความถี่เที่ยวบิน ปรับเส้นทางบินที่ขาดทุน และมีแผนที่จะทำการจำหน่ายตั๋วเองในบางเส้นทางที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายคาดว่าจะดำเนินการได้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางบินใหม่ในต่างประเทศเพิ่มเติม เช่น ประเทศอินเดีย คาดว่ามีโอกาสเปิดอย่างน้อยจำนวน 3เส้นทาง เมียนมา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยเส้นทางบินใหม่จะเน้นบินช่วงกลางคืนเพื่อลดต้นทุนการบิน ส่วนในประเทศไทยมองโอกาสขยายเส้นทางบินระหว่างภูมิภาคเพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างศึกษาขยายเส้นทางบินจากอู่ตะเภาไม่ยังจุดอื่น
ส่วนแผนรับมอบเครื่องบินนั้น3ปีมีเป้าหมายรับมอบ 8 ลำโดยจะเป็นเครื่องบินระยะไกลทำการบิน 7 ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มทยอยรับ4 ลำในปี2562 ก่อนเพื่อเสริมศักยภาพการบินเพิ่มโอกาสการเติบโต ขณะเดียวกันนกแอร์มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงน้ำมันไว้ 6 เดือน และพิจารณาเพิ่มขึ้นมากกว่า6เดือน ในอนาคตเพื่อลดความเสี่ยงราคาน้ำมันโดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท ส่วนมาร์เก็ตแชร์ ณ สิ้นปี2560 NOK มีมาร์เก็ตแชร์สายการบินต้นทุนต่ำที่ 20% เป็นอันดับ3 ของตลาดรองจากแอร์เอเชีย ไทยไลน์อ้อนแอร์ คาดตั้งเป้าปีนี้จะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นมากกว่า20% พร้อมตั้งเป้าในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็น40%จาก 20% ในปีที่ผ่านมา และมีรายได้จากการให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็น 60% จาก 80%ในปี 2560