มิติหุ้น-บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “โมโน กรุ๊ป” ประกาศจับมือ บริษัท SBS Content Hub (เอสบีเอส คอนเทนต์ ฮับ) ผู้นำธุรกิจสถานีวิทยุและโทรทัศน์ และผู้เผยแพร่คอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ ในการร่วมผลิตและนำรูปแบบคอนเทนต์ของ SBS ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์แนวแอคชั่น และแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ รายการเรียลลิตี้โชว์ รายการบันเทิง และโปรเจคอื่นๆ เสริมทัพช่อง MONO29
คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “MONO ได้จับมือกับ บริษัท SBS Content Hub ซึ่งเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จเป็นสถานีโทรทัศน์และมีความโดดเด่นด้าน Content ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เราจึงเล็งเห็นโอกาสในความร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยการนำซีรีส์เกาหลีมาออกอากาศในช่องในแนวทางการลงทุนและหารายได้จากโฆษณาร่วมกัน และนำบทโทรทัศน์ของ SBS มาผลิตโดยใช้นักแสดงของไทยเองซึ่งเรามองร่วมกันในการผลักดันสู่ตลาดเอเชีย โดยวางแผนผลิตทีวีซีรีส์ร่วมกัน 1-3 เรื่องต่อปีเริ่มด้วยการรีเมค 2 ซีรีส์เรื่องดัง คือ Yong Pal (ยง พัล) และเรื่อง Beautiful Gong Shim (บิ้วตี้ฟูล กง ชิม) ทั้งนี้ ทาง SBS จะให้การสนับสนุนเรื่องประสบการณ์การถ่ายทำให้ด้วย ในส่วนของการทำรายการแนว Audition ร่วมกันนั้นเราองจะมีการแข่งขันประกวดแคสติ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแคสนักแสดงภาพยนตร์และซีรีส์ การแคสพิธีกรผู้ประกาศข่าว
โดยโปรเจคที่ผ่านมาคือการประกวด Campus Star และการค้นหา News Anchors ให้กับช่อง MONO29 ทำให้ทางเรามีการวางแผนการเชิญทีมแคสติ้งจาก SBS มาประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นกรรมการตัดสิน รวมถึงให้คำแนะนำแนวทางการแคสพิธีกรและนักแสดงในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งจะทำให้รายการมีสีสันมากยิ่งขึ้น
สำหรับ บริษัท SBS Content Hub (เอสบีเอส คอนเทนต์ ฮับ) มีผลงานซีรีส์และรายการโทรทัศน์ ที่มีนักแสดงเกาหลียอดนิยมแสดงนำ โดยเป็นที่รู้จักของคอซีรีส์ในวงกว้าง อาทิ Pinocchio (พิน็อกคิโอ รักนี้หัวใจไม่โกหก), Doctors (ตรวจใจเธอให้เจอรัก), Legend of the blue sea (เงือกสาวตัวร้ายกับนายต้มตุ๋น) , While you were sleeping (ไวล์ยูเวอร์สลีปปิง), The Heirs (วุ่นรักทายาทพันล้าน) ฯลฯ พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพ จากงานประกาศรางวัลระดับประเทศของเกาหลีใต้มากมาย ซึ่งการร่วมมือกับ MONO ครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือที่จะพัฒนาคอนเทนต์ให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ และสร้างความหลากหลายให้มากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของผู้ชมเป็นหลัก” คุณปฐมพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย