รู้ทันการลงทุน กับ KGI (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์)
ดัชนี SET index สัปดาห์ทีผ่านมาปรับลงไปทดสอบจุดต่ำสุดรอบก่อนที่บริเวณ 1,545 จุด แล้วเริ่มฟื้นตัว โดยได้แรงหนุนจากความหวังเรื่องข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนที่ใกล้ได้ข้อสรุป ทำให้ภาพในเชิง Technical analysis ยังพอที่จะเห็นโอกาสการรีบาวด์กลับไปบริเวณ 1,600 จุดอีกครั้ง โดยคาดจะมีแรงส่งจาก 1) เม็ดเงิน LTF ที่นักลงทุน ตัดสินใจซื้อมากขึ้นหลังสัญญาณข้อตกลงการค้าเริ่มชัดเจน (ก่อนหน้านี้ ยัง Wait & see รอของถูก) 2) นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่ลดพอร์ตไปก่อนหน้า มีโอกาสซื้อกลับ 3) การปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยโดย S&P คาดจะทำให้เม็ดเงิน Fund flow จากต่างชาติมีโอกาสไหลกลับประเทศไทย อย่างไรก็ดีในกรณีเลวร้ายหากสงครามการค้ายังยืดเยื้อ ไม่มีข้อสรุปใดๆ อาจทำให้ SET index อ่อนตัวลงต่อได้เช่นกัน โดยมีแนวรับ 1,560 – 1,550 จุด
สำหรับภาพรวมการลงทุนปีหน้า ฝ่ายวิจัยฯยังมีมุมมองที่เป็นบวก ต่อตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง โดยประเมิน สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะพ้นจุดต่ำสุดในปีนี้ i) ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ผ่อนคลายลง ii) มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยเฉพาะเฟด จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อน หนุนการฟื้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และตลาด Emerging market iii) จากข้อมูลสถิติในอดีต หลังเกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หุ้นยุโรป, ญี่ปุ่นและ Emerging markets (รวมถึงไทย) จะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่ Outperform ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
จากสมมติฐานเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้าข้างต้น สำหรับหุ้นเด่นที่แนะนำสะสมสำหรับปีหน้า เน้นไปที่หุ้นที่มีโอกาส Turnaround และ Valuation ถูก (Contrarian strategy) เช่น หุ้นกลุ่มโรงกลั่น (TOP, SPRC, ESSO, BCP) หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, HANA) เป็นต้น และระมัดระวังแรงขายทำกำไรหุ้น Defensive ที่เป็นหลุมหลบภัยในปี 2562 เช่น หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มสื่อสาร, กองทุนอสังหาฯ หรือ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
www.mitihoon.com