ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค หรือ ECF โดย “นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า กรณีที่ราคาหุ้น ECF ร่วงติดฟลอร์ที่ระดับ 1.40 บาท ลดลง 0.59 บาท หรือ ลดลง 29.65% นั้น ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ แต่ยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ตระกูล “สุขสวัสดิ์” ยังคงถือหุ้นและทยอย “ซื้อ” หุ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเติบโตสูงสุดแห่งปี เนื่องจากบริษัทจะบัญทึกส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 1 ขนาด 50 MW (ECF ถือหุ้น 20%) คาดมีส่วนแบ่งกำไรขั้นต่ำ 20 ล้านบาทต่อไตรมาส ทั้งนี้บริษัทจะเร่งเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูเฟสที่ 2,3,4 (50MW, 50MW, 70 MW)ต่อไป คาดจ่ายไฟครบ 220 MW ภายในปี 65 สร้างรายได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาทต่อปี
โดย “โรงไฟฟ้ามินบู ขนาด 220 MW” ECF ลงทุนผ่านบริษัทย่อย อย่าง “บจ อีซีเอฟ พาวเวอร์ หรือ ECF-Power” เข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าดังกล่าวในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด (กำลังไฟฟ้าตามส่วนแบ่งถือหุ้น 44 MW)
ด้าน “ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” เติบโตโดดเด่น จากการทยอยสั่งออเดอร์จากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เดิม และ การได้ฐานลูกค้ารายใหม่ 3-4 ราย อาทิ ลูกค้ารายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่มีสาขากว่า 60 สาขา ล่าสุดสั่งออเดอร์เข้ามา 10-15 ล้านบาทต่อเดือน , ลูกค้า TOP 5 ในประเทศอินเดีย สั่งออเดอร์กว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน และ ลูกค้ารายใหญ่ในตะวันออกกลาง สั่งออเดอร์ 5-6 ล้านบาทต่อเดือน ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้จะเติบโตนิวไฮไม่ต่ำกว่า 10-12 % จากปีก่อน