อิหร่าน – สหรัฐ
นักวิชาการมองตรงกัน อิหร่าน เอาต่อแน่
จากเหตุการณ์สังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี นายทหารคนสำคัญของอิหร่าน โดยการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ออกมายอมรับว่าเป็นผู้สั่งการ ส่งผลให้อิหร่านเกิดความโกรธแค้นและโต้กลับด้วยการยิงขีปนาวุธกว่า 10 ลูกเข้าใส่พื้นที่โดยรอบของ ฐานทัพสหรัฐในอิรัก ซึ่งมีรายงานว่าไม่ได้รับความเสียหาย แต่อิหร่านออกมาบอกว่านี่คือการตบหน้าสหรัฐ
นักวิชาการมองอย่างไร
อาจารย์พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ นักวิชาการอิสระ ประเมินว่า อิหร่านจะต้องทำการแค้นอย่างแน่นอน และมีโอกาสยืดเยื้อ ทั้งนี้ อิหร่าน มีกองทัพที่เข็มแข็งที่สุดในตะวันออกกลาง แม้จะเทียบเคียงสหรัฐไม่ได้ แต่ประชาชนที่กำลังโกรธแค้น และเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่พร้อมจะสละชีพ และอาจใช้กลยุทธ์แบบกองโจรที่เรียกว่าGuerrilla Warfareดังนั้นจะทำให้การตอบโต้สหรัฐ จึงมีหลายรูปแบบในลักษณะที่ไม่เกรงกลัวความตาย สอดคล้องกับข่าวที่ทางผู้นำทางทหาร อิหร่านออกมาบอกว่ากำลังพิจารณาถึง 13 แนวทางในการโต้กลับสหรัฐ
อจ.พิเชียร์ แสดงความเห็นต่อว่า อิหร่านทนทรมานกับการถูกสหรัฐบีบคั้นทางเศรษฐกิจมามากกว่า 10 ปี ครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาส และข้ออ้างในการต่อสู้กับสหรัฐอย่างเต็มที่ ดังนั้นทรัพย์สินของสหรัฐในพื้นที่ต่างๆ จะมีความเสี่ยงโดนโจมตีจากกองกำลังแอบซ่อน ซึ่งถือว่ายากที่จะป้องกัน
รศ.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ให้สัมภาษณ์ อินโฟเควสท์ ว่า การล้างแค้นของอิหร่าน จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ โดยวิเคราะห์ไว้ 2 แนวทางหลัก ได้แก่
- อิหร่านอาจทำให้เกิดเป็นสถานการณ์สงครามตัวแทน โดยใช้กองกำลังของฝ่ายที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่านทั้งในอิรักและซีเรีย
เข้าโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯที่ประจำในแต่ละพื้นที่หลายประเทศในตะวันออกกลาง
- อาจใช้แผนโจมตีนอกพื้นที่โซนตะวันออกกลาง คาดว่าเป็นการมุ่งโจมตีกลุ่มพลเรือนและสถานฑูตต่างๆ เหมือนกับเหตุก่อการร้ายที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
สำหรับโอกาสในการเกิดสงครามโลกครั้งที่สามนั้นมองว่า ศักยภาพทางการทหารของอิหร่านยังห่างไกลจาก สหรัฐฯมาก เกินกว่าที่จะทำให้ความขัดแย้งครั้งนี้ขยายวงไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3