ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น หรือ SYNTEC โดย “บล.ดีบีเอสฯ” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนหุ้น SYNTEC เพราะคาดไตรมาส 4/62 กำไรสุทธิจะโดดเด่นเหนือตลาดคาด โดยคาดว่ากำไรหลักช่วงไตรมาส 4/62 ยังมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องเป็น 117 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน อีกทั้งมีการบันทึกกำไรพิเศษชนะคดีฟ้องร้องมากถึง 66 ล้านบาท หนุนกำไรสุทธิถึง 182 ล้านบาท เติบโต 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 24% จากไตรมาสก่อน แต่อาจมีการบันทึกค่าใช้จ่ายการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญเพิ่มตามมาตรฐานบัญชีใหม่ แต่จำนวนไม่มาก
ดังนั้นในปี 62และ63 ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรหลักขึ้นอีก 25% และ 16% ตามลำดับ สำหรับปี 62 ปรับเพิ่มมากในรายการรายได้จากการก่อสร้าง 7% เป็น 8.1 พันล้านบาท ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นเป็น 11.7% จากเดิมที่ 11.3% ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ปรับลดลงเป็น 7.1% จากเดิมที่ 7.7% สำหรับงวดปี 63 ก็มีการปรับรายการต่างๆในทำนองเดียวกันคือรายได้จากการก่อสร้างเพิ่ม 7% เป็น 8.2 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงเป็น 13.0% ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ก็ปรับให้ลดเป็น 7.1%
โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้จากการก่อสร้างปัจจุบันตกปีละ 8.0-8.2 พันล้านบาท จึงสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ไปจนถึงปี 64 อีกทั้งหากภายในปี 63 ธปท. มีการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ซึ่งทำให้ภาระการดาวน์ที่อยู่อาศัยหลังที่สองเพิ่ม ก็คาดว่างานก่อสร้างคอนโดจะกลับมามากขึ้น ขณะที่บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำที่รับเหมาก่อสร้างงานประเภทอาคารสูงมาตั้งแต่อดีต
ด้าน “ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม็นท์” สู่ไฮซีซั่น ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจาก “ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม็นท์” ที่ราว 6% จากรายได้รวม มีปล่อยเช่าทั้งที่กรุงเทพฯ คือ Natural Ville และ Eight ทองหล่อ รวมทั้งที่ต่างจังหวัดคือ ศรีราชาและปราจีนบุรี ในช่วงไตรมาส 4/62 และไตรมาส 1/63 จะได้รับผลดีจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว
สำหรับทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิลดลง 23% จากปีก่อน ซึ่งมีผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงทั้งธุรกิจก่อสร้างและปล่อยเช่าเซอร์วิส อพาร์ทเม็นท์ (แต่กลับมากระเตื้องขึ้นใน 2H62) แต่ปี 63 จะกลับมาฟื้นตัวได้ 17% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้ปรับเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
โดยปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ถูก P/E และ P/BV ปี 63 เป็นเพียง 6.0 และ 0.5 เท่าตามลำดับ ราคายังต่ำบุ๊กแวลูที่ 3.53 บาท โดย บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.43 บาท
www.mitihoon.com