มิติหุ้น – บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลความสำเร็จของปี 2562 ด้วยผลประกอบการที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทฯ กับยอดรายได้ทั้งปีที่ทะลุเป้าหมายกว่า 15,000 ล้านบาท ในปีนี้โนเบิลเตรียมรุกตลาดต่อเนื่อง พร้อมครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกเซกเมนต์ และเตรียมพร้อมขยายการลงทุนและฐานลูกค้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดตัว 7 โครงการมูลค่ารวมมากกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมเป้ายอดขายพรีเซลทั้งปีมากกว่า 12,000 ล้านบาท
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนธุรกิจปี 2563 พร้อมนำทีมผู้บริหารดำเนินงานภายใต้โครงสร้างผู้ถือหุ้นชุดใหม่ ขับเคลื่อนองค์กรผลักดันผลดำเนินการเติบโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายธงชัยกล่าวว่า “ปี 2562 เป็นปีที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับยอดรายได้ทั้งปีที่สูงกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ มีผลประกอบการแตะระดับหมื่นล้านบาท ส่งผลให้โนเบิลก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์กร โดยคำนึงถึงการสร้างมูลค่าอัตราส่วนผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น ตามนโยบายการให้ความสำคัญในการเพิ่มรายได้เพื่อเพิ่มการลงทุนให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2563 นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของโนเบิลในการมุ่งหน้าดำเนินธุรกิจสานต่อความสำเร็จในปีที่ผ่านมา โนเบิลเตรียมเปิดตัว 7 โครงการและมีแคมเปญต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมรุกตลาดคอนโดมิเนียมครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ระดับราคาที่จับต้องได้จนถึงระดับไฮเอนด์ รวมมูลค่ามากกว่า 25,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมียอดบันทึกรายได้จากโครงการที่ขายได้แล้ว (Backlog) ที่จะรับรู้รายได้กว่า 17,000 ล้านบาทภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นคงในการรับรู้รายได้ที่สูง รวมทั้งปีนี้โนเบิลมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งร่วมพัฒนาโครงการใหม่เพื่อรุกตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลศักยภาพถึง 2 โครงการ”
“ในไตรมาสแรกนี้โนเบิลเตรียมปล่อย 3 แคมเปญใหญ่รุกตลาดคอนโดมิเนียม เริ่มที่โครงการ โนเบิล สเตท 39 คอนโดมิเนียมในซอยสุขุมวิท 39, โนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ใจกลางเมือง สร้างเสร็จ พร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพย่านวิทยุ-ร่วมฤดี ใกล้ BTS เพลินจิต และบริษัทได้เตรียมต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ NUE อีกครั้งกับโครงการใหม่ที่งามวงศ์วาน นอกจากนี้บริษัทฯ ได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องในปี 2563 นี้บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ โดยเปิดโครงการที่ทำเลเด่นแถบแยกไฟฉาย-วังหลัง ใกล้โรงพยาบาล ศิริราช, ทำเลหรู ใจกลางเมือง ทองหล่อ และยังได้ร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่กับบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ติด 2 สถานี MRT รัชดา และ ลาดพร้าว และภายในปีนี้โนเบิลได้เตรียมเปิดตัวโครงการระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์เพื่อพัฒนาที่ดินขนาด 3 ไร่บนถนนวิทยุ” นายธงชัยกล่าว
ในด้านตลาดต่างประเทศ นายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวว่า “ในปี 2562 บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดขายจากต่างประเทศขึ้น จากในปี 2562 ที่สามารถสร้างยอดขายจากตลาดต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2562 เป็น 7,000 ล้านบาทในปี 2563
ซึ่งปัจจุบันนี้บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 18% ของส่วนแบ่งตลาดต่างประเทศในช่วงราคา 80,000 – 250,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นระดับราคาขายที่ทางโนเบิลทำการตลาดอยู่ หรือประมาณทุก 1 ใน 5 ยูนิตของคอนโดที่ขายไปยังชาวต่างชาติทั้งหมดในกรุงเทพฯ โดยประกอบไปด้วยลูกค้าหลักจากต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน ซึ่งบริษัทฯ มีเครือข่ายที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้ากว่า 470 ช่องทาง (Distributors) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนซึ่งถือเป็นตลาดหลักที่บริษัทฯ สามารถขยายฐานการตลาดครอบคลุมได้กว่า 21 เมือง”
นายแฟรงค์เสริมว่า “นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการลงทุนในโครงการที่มีทำเลศักยภาพสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาต่อยอดการรับรู้รายได้และขยายฐานธุรกิจต่อไป”
“ด้วยทิศทางการรุกตลาดในปี 2563 พร้อมตั้งเป้าเปิดอย่างน้อย 7 โครงการมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท บริษัทฯเชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุยอดขาย และรับรู้รายได้ได้ตามเป้าหมาย และบริษัทยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลในระดับสูง ซึ่งจะเป็นหุ้นปันผลที่สร้างความมั่นใจใหักับนักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจที่มีการผันผวนในปัจจุบัน ตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน” นายธงชัยกล่าวสรุป
www.mitihoon.com