ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดย “นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์” ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเจรจาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมทุน หรือ เทกโอเวอร์ เพื่อต่อยอดธุรกิจขนส่ง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป
ส่วนภาพรวมธุรกิจในปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน เพราะเชื่อว่าดีมานด์จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยบริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 2 พันล้านบาท เพื่อซื้อเรือใหม่เข้ามาอีก 4-5 ลำ แบ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ เรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU) 1ลำ มูลค่ากว่า1 พันล้านบาท และเรือขนาดกลางและเล็กอีก3-4 ลำ จากปัจจุบันมีเรือทั้งหมด 44-45 ลำ
โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหญ่จาก “ยุโรปและเยอรมัน” ที่เตรียมขยายการลงทุนสู่ประเทศแถบเอเชีย เข้ามาเจรจาเพื่อใช้บริการเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU ของบริษัทมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจอื่นๆก็เติบโตได้ดี ทั้งธุรกิจการให้บริการ ธุรกิจเรือ Offshore ,ธุรกิจบริหารเรือ และ ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสาเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว (ธุรกิจเรือขนส่งฯ) ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาขยายเส้นทางขนส่งในต่างประเทศเพิ่มเติมอีกด้วย รวมถึงจะพิจารณาขายเรือเก่าออกมา 2-3 ลำด้วย
พร้อมกันนี้ในปี 63 บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน Big Sea ผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมอันดับ 2 ของประเทศ เป็น 90% จากเดิม 80% และคาดว่ากลางปี 64 จะเข้าถือหุ้นจะครบ 100% หาก Big Sea สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่ง Big Sea จะเป็นตัวแปรที่ทำให้ผลประกอบการของ RRM เติบโตต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะทุกธุรกิจเติบโตได้ดี โดยปัจจุบัน Utilization Rate มากกว่า 90%
www.mitihoon.com
