กบข. โชว์ผลงานเด่นด้าน ESG และด้านสื่อสารสมาชิก ประเดิมปี 2563 คว้าอีก 2 รางวัลจาก Asia Asset Management

39

มิติหุ้น-กบข. คว้า 2 รางวัล Best ESG Strategy (Thailand) และ Best Pension Fund for Member Communications (ASEAN) จาก Asia Asset Management ตอกย้ำความสำเร็จจากผลงานการผลักดันธรรมาภิบาลในตลาดทุนผ่าน ESG Investment และเปลี่ยนยุทธศาสตร์การสื่อสารให้สมาชิกเป็นศูนย์กลาง (Member Centric)

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า Asia Asset Management วารสารชั้นนำด้านการบริหารสินทรัพย์และการลงทุนของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก ได้พิจารณาผลงานในปี 2562 และคัดเลือกให้ กบข. เป็นผู้ชนะเลิศใน 2 รางวัลใหญ่ โดย กบข. ได้รับรางวัลระดับประเทศ 1 รางวัล และรางวัลระดับอาเซียน 1 รางวัล

“ความคิดริเริ่มและผลงานที่เด่นชัดด้านการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล หรือ ESG Investment และเป็นผู้นำที่ทำให้เกิดกระแสตื่นตัวเรื่องนี้ในตลาดทุนไทย ทำให้ กบข. ได้รับรางวัล Best ESG Strategy (Thailand) ขณะที่ผลงานด้านสื่อสารสมาชิกถือว่าโดดเด่นที่สุดในอาเซียน จนทำให้ได้รับรางวัล Best Pension Fund for Member Communications (ASEAN) นับเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ทำให้สมาชิกเชื่อมั่นและไว้วางใจว่า กบข. ดำเนินกลยุทธ์บริหารองค์กรและสื่อสารสมาชิกได้เป็นอย่างดี มีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและในภูมิภาคอาเซียน” นายวิทัย กล่าว

สำหรับผลงานเด่นด้าน ESG ในปีที่ผ่านมาที่ถือเป็นความสำเร็จระดับประเทศของ กบข. คือการริเริ่มและผลักดันให้นักลงทุนสถาบันไทย 32 ราย ลงนามความร่วมมือกำหนดแนวปฏิบัติการระงับลงทุนในกิจการที่มีปัญหาธรรมาภิบาล (Negative List Guideline) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตระหนักและส่งเสริมธรรมาภิบาลการลงทุนของนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงการจัดตั้ง ESG-focused portfolio สำหรับหุ้นไทย และการนำปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกผู้จัดการกองทุน เป็นต้น

ส่วนผลงานด้านสมาชิกที่ทำให้ กบข. ได้รับรางวัลระดับภูมิภาค นายวิทัย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กบข. ได้ปฏิวัติรูปแบบการสื่อสารเข้าสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์มภายใต้ยุทธศาสตร์ “สมาชิกคือศูนย์กลาง” (Member Centric) โดยมี My GPF Application เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสื่อสารและให้บริการสมาชิกครบวงจร นับแต่วันแรกที่เป็นสมาชิก กบข. จนสิ้นสมาชิกภาพ (End-to-End) สมาชิกสามารถใช้บริการทุกอย่างได้สะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชั่นดังกล่าว อาทิ การบริหารจัดการบัญชี การเลือกแผนการลงทุน การเพิ่มสัดส่วนการออม และ การกดรับสิทธิพิเศษส่วนลดสวัสดิการและส่วนลดร้านค้า โดยปีที่ผ่านมามียอดกดใช้บริการทุกเมนูรวมกันถึงกว่า 14 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 535 เมื่อเทียบกับปี 2561 และยอดกดรับสิทธิผ่านเมนูสิทธิพิเศษกว่า 480,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 545 เมื่อเทียบกับปี 2561 เป็นต้น