ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH โดย “บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า BCH เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับประโยชน์มากสุด หลังจากที่ “คณะกรรมการประกันสังคม” มีการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว ด้วยฐานผู้ประกันตนที่มีอยู่ 8.7 แสนรายสูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน และสัดส่วนรายได้จากประกันสังคมที่ 35% ของรายได้รวม
โดย “ประกันสังคม” มีการปรับเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ที่เหมาจ่าย อัตรา 1,640 บาท/คน/ปี (+9.3%) กรณีผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง อัตรา 746 บาท/คน/ปี (+16%) และกรณีผู้ป่วยนอก ที่สถานพยาบาลต้องมีภาระการรักษาผู้ประกันตนป่วยด้วยโรคเรื้อรังอัตรา 453 บาท/คน/ปี (+1.3%) ขณะที่เมื่อหักส่วนที่ประกันสังคมยกเลิก Customer Complaint และ Discharge type สุทธิแล้วรายได้จาก “โครงการประกันสังคม” เพิ่มขึ้นราว 5.6% และ ฝ่ายวิจัยมองว่าผลกระทบเชิงลบจากการปรับลดค่าบริการเหมาจ่าย (Adjusted RW > 2 ) จะลดลง หลังจากปรับเพิ่มอัตราต่อหัวมากขึ้น
ดังนั้นในปี 63 ฝ่ายวิจัยจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นเฉลี่ย 6% จากผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม โดยคาดกำไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่น 20% จากปีก่อนเป็น 1,374 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1.รายได้ยังเติบโตจากทั้งกลุ่มเงินสดที่เน้นการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น
ส่วน 2.จำนวนโควต้าประกันสังคมที่คาดว่ายังเพิ่มต่อเนื่อง 5 หมื่นราย และผลจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม 2) WMC ที่คาดว่าจะมีรายได้มากขึ้น หลังปรับปรุงศูนย์เบาหวานในปี 2562 และ จะรับผลบวกเต็มปีจากการเปิดศูนย์ IVF ในไตรมาส 4/62 และ 3.ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น จากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์รามคำแหง เกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล หลังการปรับปรุงในปี 2562 และอัตรากำไรของโครงการประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น
สำหรับในช่วงไตรมาส 4/62 คาดกำไรสุทธิปรับลดลง 38% จากไตรมาสก่อน และ 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเหลือ 251 ล้านบาท โดยการลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เพราะปัจจัยฤดูกาล ซึ่งไตรมาสก่อนเป็น High Season ของอุตสาหกรรม และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับผลกระทบจากกรณีประกันสังคม ประกาศปรับลดการเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง( Adjusted RW > 2) จากเดิมที่ 12,800 บาท เหลือ 7,100 ล้านบาท เนื่องจากวงเงินงบประมาณคงเหลือในปี 2562 ไม่เพียงพอ ซึ่งกระทบต่อการรับรู้รายได้ประกันสังคมของ BCH ที่ลดลง ซึ่งคาดรายได้ไตรมาส 4/62 เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มลูกค้าเงินสด ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ ปรับลดลง จาก 12.4% เหลือ 11.3% จากผลกระทบจากรายการปรับลดรายได้จาก Adjusted RW
โดยฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้น BCH ปรับลดลงสะท้อนข่าวลบผลประกอบการที่ชะลอตัวในไตรมาส 4/62ไปแล้ว ขณะที่กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในปี 63 จากผลบวกการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม โดยฝ่ายวิจัยมีการปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 22.50 บาท จากเดิมที่ 21.80 บาท สะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไร อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC 7.1%
www.mitihoon.com
