GLOCON ตั้งเป้ารายได้ปี 63 แตะ 2.26 พันลบ. เชื่อผลงานพลิกมีกำไร ลุยขยายไลน์สินค้าเจาะฐานลูกค้าเพิ่ม

246

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โกลบอล คอนซูมเมอร์ หรือ GLOCON ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ และผู้ลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็งและอาหารพร้อมทาน โดยนายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยถึง แผนธุรกิจในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 2,260 ล้านบาท หรือเติบโต 88% จากปีก่อน จากการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจเดิม ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ ขยายฐานลูกค้า และการขยายไปยังธุรกิจใหม่ที่เข้าลงทุน โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอาหาร (Food) เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ (Non-Food) 40% ทั้งนี้ บริษัทเชื่อผลประกอบการปี 63 จะสามารถพลิกเป็นกำไรได้ เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันคาดหวังว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมภายใน 2-3 ปี ถัดจากนี้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะรุกธุรกิจอาหารมากขึ้น โดยจะขยายร้าน A&W เพิ่มอีก 10-15 สาขา เน้นในทำเลย่านสถาบันการศึกษา พร้อมขยายช่องทางอาหารในร้านสะดวกซื้อ 7-11 และลดสาขาที่ขาดทุนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าที่แพง การขยายเมนูอาหารประเภทข้าว ซึ่งปัจจุบันธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานที่จำหน่ายในคอนวีเนียนสโตร์เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 2 เท่าตัว และมีมากกว่า 10 เมนู

ส่วนธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แต่ยังเติบโตได้ดี บริษัทฯ จึงปรับกลยุทธ์ ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มพลาสติกชนิดอ่อน หรือ Flexible Packaging มีแนวโน้มที่โดดเด่น และกำไรดี รวมทั้ง มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้

“บริษัทฯ มองหาโอกาสการเติบโตในทุกรูปแบบ ทั้งการลงทุนร่วมกับพันธมิตร การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ รวมไปทั้งโปรเจกต์อื่นๆ ในอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง” นายเชิดศักดิ์ กล่าว

ล่าสุดบริษัทฯ ได้อนุมัติการเข้าซื้อธุรกิจผลไม้อบแห้งจาก บริษัท ไวด้า ฟูด แฟคทอรี่ (1989) จำกัด เป็นเงิน 48.50 ล้านบาท และให้บริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด (FD) บริหารจัดการธุรกิจดังกล่าว และเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท ฟรุตตี้ดราย จำกัด (FD) สัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเพื่อเป็นบริษัทย่อย เป็นเงิน 25.50 ล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนทั้งหมด 74 ล้านบาท

สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในการลงทุนครั้งนี้ เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ FD สัดส่วน 51%
ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้กำไรจากธุรกิจดังกล่าวเข้ามาทันทีในปีนี้ จากการประกอบกิจการผลิตและจำหน่าย
ผลไม้อบแห้ง รวมถึงผลตอบแทนจากโครงการทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สินและผลกำไรอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ส่วนการเข้าซื้อธุรกิจผลไม้อบแห้ง คาดว่าบริษัทย่อยดังกล่าวจะสามารถเพิ่มธุรกิจส่งออกประเภทผลไม้อบแห้งในหลายประเทศขนาดใหญ่ เช่น ประเทศแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น ยังสามารถต่อยอดธุรกิจของ GLOCON โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ขวด และกล่องพลาสติก ให้สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้า และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น สนับสนุนนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นที่จะทำผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคตามเป้าหมายของที่ตั้งไว้ รวมทั้งเพิ่มยอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่ดี

www.mitihoon.com