มิติหุ้น – อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (Eastspring) บริษัทจัดการลงทุนในภูมิภาคเอเชียของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) จัดงานฉลองความสำเร็จอย่างเป็นทางการในการเข้าซื้อหุ้นบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (บลจ.ธนชาต) จำนวน 50.1% จากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (ธนาคารธนชาต) และธนาคารออมสิน (GSB)1 โดยภายหลังการควบรวมจะเปลี่ยนชื่อเป็น “Thanachart Fund Eastspring” เพื่อสะท้อนการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กร
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้อีสท์สปริงก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยผ่านการถือหุ้นใน Thanachart Fund Eastspring และ TMBAM Eastspring โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 12% และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ 668,000 ล้านบาท2 (ประมาณ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
นายนิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการประกันชีวิตและบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ชั้นนำของเอเชีย พรูเด็นเชียลมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการช่วยดูแลสุขภาพและเพิ่มความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถมอบโอกาสที่หลากหลายด้านการลงทุนที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย อีกทั้งยังเป็นฐานในการเร่งการเติบโตของเราในตลาดสำคัญนี้อีกด้วย”
“การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จของอีสท์สปริงจากการเข้าถือหุ้น 65% ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (ปัจจุบัน คือ TMBAM Eastspring) เมื่อเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพสูงในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับธนาคารทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย” นายนิค กล่าว
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ธนาคารรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับอีสท์สปริง นับตั้งแต่เราเริ่มต้นทำงานร่วมกันเมื่อปี 2561 ซึ่งทำให้สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของ TMBAM Eastspring ได้เติบโตมากกว่า 20% และมีฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการเสนอขายกองทุนใหม่ (IPO) ที่มีขนาดกองทุนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของบริษัทถึง 2 กองทุน ได้แก่กองทุน TMB Eastspring Global Smart Bond Fund และกองทุน Thanachart Eastspring Global Technology Fund”
“เรามุ่งมั่นที่จะได้ทำงานร่วมกับ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring ในอนาคต ทั้งนี้ด้วยจุดแข็งที่แตกต่างแต่ส่งเสริมซึ่งกันและกันของทั้งสองบริษัท ผนวกกับการได้รวมกิจการของ ธนาคารทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตที่จะกลายเป็นธนาคารใหม่ที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นและมีช่องทางการให้บริการเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 900 สาขา ช่วยทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงเครื่องมือด้านการลงทุนต่างๆ ที่หลากหลายในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น และทำให้มีชีวิตทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น” นายปิติ กล่าว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด มีจุดแข็งในด้านการลงทุนเชิงรุกในหุ้น สินทรัพย์ผสม ตลาดเงิน และตราสารหนี้ ในขณะที่ TMBAM Eastspring มีความสามารถด้านการลงทุนเชิงรับในหุ้น อสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้ และกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน3 จากการเติบโตของชนชั้นกลาง ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น วัฒนธรรมการออมที่เข้มแข็ง และอัตราการเข้าถึงกองทุนรวมที่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
เมื่อเร็วๆ นี้ TMBAM Eastspring ประสบความสำเร็จในการเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง โกลบอล สมาร์ท บอนด์ (TMB Eastspring Global Smart Bond Fund) ส่วน Thanachart Fund Eastspring ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง โกลบอล เทคโนโลยี (Thanachart Eastspring Global Technology Fund) ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก ทั้งสองกองทุนสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้านยอดการจัดจำหน่ายของทั้งสองบริษัท อันเนื่องมาจากการสนับสนุนและการส่งเสริมด้านการจัดจำหน่ายจากธนาคารทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต อนึ่ง เมื่อเดือนมกราคม ปี 2562 ที่ผ่านมา TMBAM Eastspring ได้เสนอขายครั้งแรก(IPO) กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง เอเชีย แปซิฟิก พรอพเพอร์ตี้ เฟล็กซิเบิล (TMB Eastspring Asia Pacific Property Flexible Fund) เป็นกองทุนแรกหลังการเข้ามาเป็นพันธมิตรกับอีสท์สปริง และเพิ่งได้รับรางวัลจากเอเชีย แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ กองทุนเปิดใหม่ของประเทศไทย (Fund Launch of the Year in Thailand)