TEAMG ม้าตีนต้นรับทรัพย์งบรัฐ เคาะกำไรพุ่งร้อนแรง 30% (18/02/63)

286

มิติหุ้น – TEAMG ตั้งเป้ารายได้ปี 63 แตะระดับ 2 พันล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกสูงลิ่ว 3.8 พันล้าน ทยอยรับรู้ต่อเนื่องข้ามปี เตรียมลุยประมูลคว้างานใหม่ โบรกฯ ชี้โอกาสทองคว้างบรัฐผ่านฉลุย แถมมีงานค้างท่อจ่อคิวรอเพียบ ให้เป้า “ซื้อ” 3.00 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเจเมนท์ หรือ TEAMG ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร โดยแหล่งข่าววงการอุตสากรรม เผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 63 ไว้ที่ 1,800-2,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อกอยู่ที่ 3,800 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัท คาดรับรู้ปี 63 ประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือราว 30% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ปีถัดไป

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มเติม คาดจะได้รับงานอีกราว 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นรักษาอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิให้เป็นไปตามแผน

ลุ้นงานใหม่แบ็กล็อกพุ่ง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า ประเมินว่า บริษัทมีโอกาสได้ประโยชน์จากการผ่าน พรบ.งบประมาณปี 63 จะทำให้การลงทุนเร่งตัว และทะลักมายังงานที่ปรึกษา ซึ่งผลการเร่งรัดลงทุนในโครงการค้างท่อจะยิ่งทำให้ TEAMG มีโอกาสได้รับงานมากขึ้น คาดจะเห็นงานทั้งจาก รฟท., รฟม. และ กทพ. ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 เพื่อให้ทันรอบปีงบประมาณ ต.ค.63

ทั้งนี้บริษัทมีงานในมือ (แบ็กล็อก) ณ สิ้น ม.ค. 63 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,800 ล้านบาท จากเมกะโปรเจ็กต์ที่ทยอยอนุมัติในปี 62 ต่อเนื่องถึงปี 63 เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้ม, รันเวย์สนามบินอู่ตะเภา, รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ, และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดงานในมือจะรับรู้รายได้ถึงปี 64 ขณะเดียวกัน คาดปี 63 นี้ มีโอกาสจะได้งานเพิ่มอีกราว 1,500-2,000 ล้านบาท จากงานที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า (สายสีส้มตะวันตก), ท่าเรือมาบตาพุด และงานโครงสร้างพื้นฐานในแถบ EEC รวมถึงการคุมงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและเขื่อนในลาวและประเทศแถบอาเซียน ซึ่งจะทำให้การรับรู้รายได้มีความมั่นคงมากขึ้น

กำไรพุ่งแรง – หุ้นมีอัพไซด์

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/62 คาดกำไรสุทธิ ไว้ที่ 27 ล้านบาท โต 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิไว้ที่ 139 ล้านบาท โตแรง 30% จากปี 62 จากการทยอยรับรู้งานใหม่และไม่มีตั้งสำรองพนักงาน และกำไรไตรมาส 2/63 จะโตเด่นมาก จากฐานต่ำปีก่อน ส่วนไตรมาส 3/63 คาดจะมีการเร่งปิดงานเพื่อให้ทันรอบเบิกจ่ายงบปี 63 ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาหุ้นเหมาะสมไว้ที่ 3 บาท มี Upside 32% และปันผลอีก 8% ต่อปี

www.mitihoon.com