ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP โดย “นายสุธี สุขเรือน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ปี 62 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,969 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,812.66 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าของโรงไฟฟ้าหงสา หมืองภูไฟ และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่ลดลง รวมถึงการลดลงของรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม
ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 5,687 ล้านบาท จากรายได้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 4,790 ล้านบาท รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีน 755 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าในญี่ปุ่น ที่เริ่มดำเนินการสร้างรายได้ในไตรมาส 4/62 อีกจำนวน 142 ล้านบาท
ด้านส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้า จำนวน 3,673 ล้านบาท ลดลง 23% จากปีก่อน เนื่องจากโรงไฟฟ้าหงสาหยุดเดินเครื่องเพื่อตรวจเช็คและซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ชำรุดจากเหตุแผ่นดินไหวในลาว ขณะที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี มีส่วนแบ่งกำไร จำนวน 840 ล้านบาท ลดลง 37% จากการลดลงของค่าความพร้อมจ่าย (AP) จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 62 อัตราหุ้นละ 0.65 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.35 บาท คงเหลือการจ่ายปันผลอีก 0.30 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 9 เม.ย.63 และกำหนดจ่าย วันที่ 28 เม.ย.63
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 63 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 4.3 กิกะวัตต์ เป็น 5.3 กิกะวัตต์ในปี 68 โดยจะมองหาโอกาสการลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้า และมีภาครัฐให้การสนับสนุน ล่าสุดจัดตั้งบริษัทใหม่ Banpu NEXT จะช่วยขยายขีดความสามารถและขยายการลงทุนไปยังธุรกิจการสร้างดรงไฟฟ้าพื้นฐานและธุรกิจพลังงานสะอาด
โดยปี 63 บริษัทยังเดินหน้าก่อสร้างและพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Yabuki และ Yamagata ในประเทศญี่ปุ่น โครงการโรงไฟฟ้า Shanxi Luguang ในจีน และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม
www.mitihoon.com