ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง โดยนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 63 เติบโต 3-5% และตั้งงบลงทุนไว้ที่ 5.5 ล้านบาท ไม่รวมงบ M&A โดยจะเน้นออกสินค้านวัตกรรมใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงเฉลี่ยราว 20% จากเดิม 16% เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ และตั้งเป้า 5 ปี (63-67) ผลักดันกำไรปกติกลับไปแตะระดับ 5 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันคาดยังได้รับอานิสงส์จากราคาปลาทูน่าปี 63 ที่ยังทรงตัวในระดับสูงที่ 1,300 – 1,600 เหรียญฯ และเฉลี่ยทั้งปีที่ 1,500 เหรียญฯ จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 1,200 เหรียญฯ อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่าลงก่อนหน้านี้ก็เป็นปัจจัยบวกให้กับบริษัท
ส่วนภาพรวมยอดขายของบริษัทในช่วง 2 เดือนแรก บริษัทยังเห็นตัวเลขเฉพาะเดือน ม.ค. แต่ยังไม่ชัด เนื่องจากสินค้าบริษัทปกติเป็นการขายล่วงหน้า แต่ได้มีการติดตามสถานการณ์ในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลดลงไป ส่วนธุรกิจของบริษัทเป็นสินค้าบริโภคทั่วไปยังไม่กระทบ ขณะที่ธุรกิจในจีนยังถือเป็นสัดส่วนน้อย เลยไม่มีผลกระทบมาก
สำหรับสินค้าน้ำมันสกัดจากหัวปลา ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิต คาดเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 4/63 และจะมีสินค้านวัตกรรมอื่นๆ ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ด้านแผนนำบริษัทลูก “ไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ (TFM)” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และจะประเมินช่วงเวลาเหมาะสมอีกครั้งในช่วงไตรมาส 2/63
www.mitihoon.com
