มิติหุ้น– SYNTEC หุ้นน้ำดี P/E ต่ำ 6 เท่า ปลอดหนี้ D/E เพียง 0.75 เท่า กำไรสะสมสูง 3.57 พันล้านบาท แถมราคาหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลูที่ 3.53 ล้านบาท จับตากำไรสุทธิไตรมาส 4/62 แตะ 182 ล้านบาท พุ่ง 57% หลังบันทึกกำไรพิเศษคดีฟ้องร้อง และทยอยรับรู้รายได้ Backlog กว่า 1 หมื่นล้านบาท รับทรัพย์ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม็นท์ ชี้ปี 63 ผลงานโตฉลุย แนะนำ “ซื้อ”
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น หรือ SYNTEC โดย “บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/62 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 182 ล้านบาท เติบโต 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 24% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากมีการบันทึกกำไรพิเศษชนะคดีฟ้องร้องถึง 66 ล้านบาท แต่อาจมีการบันทึกค่าใช้จ่ายการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญเพิ่มตามมาตรฐานบัญชีใหม่ แต่จำนวนไม่มาก
อย่างไรก็ดีหากนับเฉพาะกำไรหลักจะอยู่ที่ 117 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 64
เพิ่มกำไร-รายได้โตเด่น
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรหลักปี 62/63 เพิ่มขึ้นอีก 25% และ 16% ตามลำดับ สำหรับปี 62 ปรับเพิ่มมากในรายการรายได้จากการก่อสร้าง 7% เป็น 8.1 พันล้านบาท ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นเป็น 11.7% จากเดิมที่ 11.3% ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ปรับลดลงเป็น 7.1% จากเดิมที่ 7.7% สำหรับปี 63 ก็มีการปรับรายการต่างๆในทำนองเดียวกันคือรายได้จากการก่อสร้างเพิ่ม 7% เป็น 8.2 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงเป็น 13.0% ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ก็ปรับให้ลดเป็น 7.1%
ด้าน “ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเม็นท์” ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้ที่ 6% ของรายได้รวม มีปล่อยเช่าทั้งที่กรุงเทพฯคือ Natural Ville และ Eight ทองหล่อ รวมทั้งที่ต่างจังหวัดคือ ศรีราชาและปราจีนบุรี โดยในช่วงไตรมาส 4/62 และไตรมาส 1/63 จะได้รับผลดีจากการเข้าสู่ไฮซีซั่น นอกจากนี้ในพอร์ตการลงทุนก็มีกำไรยังไม่ได้รับรู้ใน BEM จำนวนมากราว 496 ล้านบาท หรือ 0.31 บาทต่อหุ้น SYNTEC คิดเป็นส่วนเพิ่มจากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 16% เนื่องจากมีต้นทุนเฉลี่ยต่ำเพียง 2.95 บาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเป็น 11.20บาท
หุ้นP/Eต่ำ-ราคาต่ำบุ๊ก3.53บ.
ดังนั้นแม้ว่าทั้งปี 62 คาดกำไรจะลดลง 23% จากปีก่อน แต่ปี 63 จะกลับมาฟื้นตัวได้ 17% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ถูก P/E และ P/BV ปี 63 เป็นเพียง 6.0 และ 0.5 เท่า ตามลำดับ และหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลูที่ 3.53 บาท กำไรสะสมสูง 3.57 พันล้านบาท แต่ D/E ต่ำเพียง 0.75 เท่า ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 2.43 บาท ด้าน “บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” แนะนำ “เก็งกำไร” เป้าหมาย 2.60บาท
www.mitihoon.com