แนวโน้ม SET ผันผวนจาก Covid-19และราคาน้ำมันที่ดิ่งลง จับตาดัชนีหากหลุด 1,317 จุด ให้ลดความเสี่ยง

111

มิติหุ้น-“KTBST SEC ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์ฯ นี้ยังมีความผันผวนรบกวน จากเรื่อง Covid-19 และราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างแรง ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยมีแนวโน้มกลับมาอีกครั้ง แนะจับตาหากดัชนีต่ำกว่า 1,317 จุด พิจารณาทำกำไรลดความเสี่ยง”

ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์  เคทีบี (ประเทศไทย)  จำกัด (มหาชน) หรือ (KTBST SEC) มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (9-13 มี.ค.63) ยังคงมีผันผวน จากประเด็นเรื่องการแพร่ของไวรัส Covid-19 แม้ข้อมูลจากทางประเทศจีนจะระบุว่าเริ่มควบคุมการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื่อ Covid-19ได้ แต่การติดเชื้อในประเทศต่างๆ ยังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อธุรกิจการบินและการเดินทาง รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อบริโภคที่ชะลอลงและการผลิตต่างๆของโลกที่สะดุดลง โดยรวมจึงยังคงเป็นปัจจัยลบและกดดันมาถึงตลาดหุ้นไทยด้วย โดยจะเห็นได้ว่าดัชนีฯ ยังไม่สามารถผ่านระดับ 1,400 จุด ขึ้นไปได้ แม้จะมีเม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญฯ ที่เตรียมอัดฉีดเข้ามาในระบบ

ด้านราคาน้ำมันดิบ ที่ปรับตัวลดลงแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมาถึง 9% และต่อเนื่องมาถึงเช้าวันจันทร์ (9 มี.ค.) นี้  เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันไม่สามารถบรรลุขอตกลงในการลดกำลังการผลิตได้ ทางประเทศซาอุฯ ประกาศลดราคาน้ำมันจึงเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี และโรงกลั่นน้ำมัน ในบ้านเรา

อย่างไรก็ตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อชะลอผลกระทบเรื่อง Covid-19 จำนวนงบประมาณ 2 แสนล้านบาท จะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ แต่อาจมีบางกลุ่มธุรกิจ เช่นกลุ่มการเงินที่อาจต้องมีมาตรการเพื่อช่วยกลุ่มลูกหนี้ ดังนั้นจึงมองว่ามาตรการเหล่าอาจไม่ได้นี้เป็นบวกทั้งหมด  ขณะที่ การเพิ่มสิทธิในลดหย่อนภาษีของกองทุน SSF อีก 1 แสนบาท ซึ่งกำหนดให้ไม่เกินเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นขนาดใหญ่ได้เมื่อกองทุนฯเปิดให้มีการจองซื้อกัน สำหรับประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตามคือ การายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคในวันที่ 9 มี.ค. และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เรื่องทิศทางอัตราดอกบี้ย ในวันที่ 12 มี.ค.

โดยคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBTS SEC ประเมินว่า การร่วมมือของรัฐบาลและธนาคารกลางประเทศต่างๆ ถือเป็นบวกต่อตลาด แต่ดัชนีฯถูกกดจากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ทำให้ดัชนีมีที่ดัชนีฯจะหลุด 1,300 จุด ลงไปอีกครั้ง  ดังนั้นลงทุน จึงต้องกลับมาตั้งรับผลกระทบจากสองเรื่องนี้อีกครั้ง คือ ทยอยขายทำกำไรช่วงสั้นลดความเสี่ยง หากดัชนีต่ำกว่า 1,317 จุด ให้พิจารณาขายเพื่อลดพอร์ต  ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัย  เช่น ทองคำ-พันธบัตร จะได้รับความสนใจมากกว่าตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้  กลยุทธ์ลงทุนแนะถือเงินสดเพิ่มเป็น 40%  หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ AOT , LH ,  RATCH และ BJC  ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์ 1,270-1,393 จุด

 

www.mitihoon.com