KAssetจ่อปรับตัวเลขกำไรบจ. ย้ำLTFตัวเลือกถือลงทุนยาว

46

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ประเมินlถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หากสามารถควบคุมได้ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และการท่องเที่ยวของภาครัฐที่จะทยอยประกาศออกมาใช้ รวมทั้งเม็ดเงินลงทุน และการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มเห็นในเดือนเม.ย. 63 ประกอบกับสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับสูงจากการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก

ราคาน้ำมันตัวกดดันกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันมีการปรับลดลงแรง บลจ.กสิกรไทย จึงอยู่ระหว่างพิจารณาปรับตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจากเดิมที่เคยคาดไว้ 4% อาจจะติดลบได้ เนื่องจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีมีน้ำหนักสูงถึงเกือบ 16% ของตลาด (ไม่รวมกลุ่มสาธารณูปโภค) ที่ถึงแม้ว่าไทยจะได้ประโยชน์จากระดับราคาน้ำมันที่ต่ำ เนื่องจากมีการนำเข้าพลังงานสุทธิเกือบ 8 แสนล้านบาท แต่การปรับลดลงของราคาน้ำมันทำให้หุ้น Energy Sensitive มีการปรับลดลงตาม รวมถึงผลกระทบในเชิงจิตวิทยาของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงและยังคงต้องจับตาต่อไป

“มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยกดดัน ประเด็นล่าสุดจากการที่ OPEC และกลุ่มพันธมิตร ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องการลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านบาร์เรลจากการประชุมในวันที่ 6 มี.ค. 63 ที่ผ่านมา ประกอบกับซาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาขายน้ำมันดิบของตนเองลงอีก 6-8 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งมีท่าทีเพิ่มกำลังการผลิตหลังข้อตกลงสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. 63 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ (Brent) ปรับลดลงรุนแรงลงมาแตะระดับต่ำสุดที่ 31.2 เหรียญดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 9 มี.ค. 63 ซึ่งลดลงถึง 37% ทำให้ส่งผลลบต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงกดดันดัชนีราคาหุ้นให้ปรับลดลงแรงตาม” นางสาวธิดาศิริกล่าว

LTFถือลงทุนได้ในระยะยาว
นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุน LTF จนครบกำหนดตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร และยังคงต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีศักยภาพสูง แนะนำว่ายังสามารถถือหน่วยลงทุนต่อไปได้ เพื่อโอกาสทำกำไรในระยะยาว

ล่าสุด บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลกองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) กองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) และกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 โดยทั้งหมดจะจ่ายในอัตรา 0.14 บาทต่อหน่วย และมีกำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 13 มีนาคม 2563 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 419.15 ล้านบาท

⊕กองทุน LTF ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.กสิกรไทย ยังคงได้รับการดูแลจากทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการคัดสรรหุ้นไทยศักยภาพดี ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง⊕  

www.mitihoon.com