กระจายลงทุนและทยอยสะสมสินทรัพย์พื้นฐานดี

111

ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกถูกเทขายอย่างรุนแรงในวันเริ่มต้นของสัปดาห์ ตลาดหุ้นไทยร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่สหรัฐฯ ดัชนีDow Jones ร่วงลงกว่า 2,000 จุด ลดลงถึง 7.79%  ทำให้ตลาดสหรัฐฯถูกระงับการซื้อขายชั่วคราวตอนเปิดตลาด โดยรวมเมื่อวันจันทร์ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงถึง 8.4%  ซึ่งการร่วงลงของหุ้นทั่วโลกมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอย่างรุนแรงถึง 30% ในวันก่อนหน้า หลังจากที่รัสเซียและประเทศซาอุฯ ไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมของกลุ่มโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงานและการเงินทั่วโลก

 

ขณะที่การระบาดของไวรัส Covid-19 ก็ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่เพราะจำนวผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นกว่า 11,000 รายแล้ว โดยในสัปดาห์นี้จะมีการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศจีน คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าจหลังจากต้นทุนด้านราคาพลังงานที่ปรับตัวลง ขณะที่ต้นทุนสินค้าบริโภคอื่นๆมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการผลิตที่ลดลงภายหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ด้านยุโรปจะมีการรายงานประมาณการตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหภาพยุโรปในรอบที่ 3  คาดว่าจะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 จากผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่ชะลอต่อเนื่อง

 

อีกประเด็นสำคัญล่าสุด ที่คาดว่าจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นบ้าง คือ การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มอัดฉีดเงินเข้าตลาดเพื่อทำธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ (Repurchase Agreement : Repo) โดยเพิ่มเงินจากระดับ 1.2 เป็น 1.5 แสนล้านเหรียญฯ  และอีกประเด็นคือ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศมาตรการทางเศรษฐกิจในเบื้องต้น คือ การลดภาษีจากผู้ที่มีรายได้ประจำ (payroll Tax) เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Covid-19  ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

 

อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมของการลงทุนยังคงมีความผันผวนอยู่ จากปัจจัยหลักคือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งในการลงทุนในระยะนี้ KTBST SEC ให้คำแนะนำเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลงและการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ โดยให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวในสัดส่วน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้น 20% ทองคำ 5% และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 25%  ขณะเดียวกันแนะนำให้รอจังหวะทยอยลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมองว่าราคาน่าสนใจหลังจากถูกแรงเทขายในช่วงที่ผ่านมาและในเชิงปัจจัยพื้นฐานได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดยชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์  บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com