แนะสะสมทองคำ เก็งกำไรหุ้นช่วงสั้น

70

ทิศทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ยังเผชิญวิกฤตที่รุนแรงและต้องแก้กันต่อไป สถานการณ์ของ COVID-19 ในไทยคาดว่าในไตรมาสที่ 2 หรือในช่วงเดือนเม.ย. คงจะเห็นแนวโน้มของสถานการณ์และพอจะเริ่มคาดการณ์กันได้บ้างว่าจะเป็นอย่างไร

ขณะที่ตลาดการเงินและสินทรัพย์ต่างๆ จะยังมีความผันผวนอยู่ตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่จะทยอยรายงานออกมาซึ่งจะสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แย่ทั้งในด้านภาคการผลิตและการจ้างงาน

ประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้คือ การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC) ในวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งจะมีการลดกำลังการผลิตจำนวน 10 ล้านบาร์เรลต่อวันหากเกิดขึ้นจะเป็นผลบวกต่อตลาดและกลุ่มที่ผลิตน้ำมัน และช่วยพยุงราคาน้ำมัน (WTI) ให้ปรับตัวขึ้นได้ในกรอบ 24-27 เหรียญฯต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามยังมองว่าจะเป็นผลบวกได้ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะโดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกไดรับผลกระทบจาก COVID-19 โดยเฉพาะสหรัฐฯและยุโรปที่กระทบหนักมาก ทาง KTBST SEC คาดว่าตัวเลขผู้ป่วยของกลุ่มประเทศดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ขณะที่มาตรการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางของสหรัฐฯและยุโรป ยังต้องรอดูว่าจะเริ่มเห็นผลเมื่อใด

ส่วนประเทศไทย รัฐบาลออกมาตรการระยะที่ 3 คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ที่ต้องจับตาดูคือกลุ่มธนาคารที่จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ทั้งจำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้นและรายได้ที่ลดลง ทำให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย มีการออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น เลื่อนกำหนดคุ้มครองเงินฝาก , ลดเงินจ่ายกองทุนฟื้นฟูฯ และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ในด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้นหากรัฐบาลคุมตัวเลขติดเชื้อได้ในระดับนี้หรือเพิ่มไม่มาก จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น

การจัดสินทรัพย์ลงทุนในช่วงเดือนนี้ KTBST SEC มองว่าสินทรัพย์ที่น่าสนใจคือทองคำ แนะนำให้ทยอยสะสมได้ที่หากราคาปรับตัวลงมาก ระดับ 1,580 – 1,600 เหรียญฯ โดยมองว่าทองคำมีโอกาสไปแตะที่ระดับ 1,800        เหรียญฯได้ และยังนำกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีการกระจายลงทุนในหลายประเทศและในหลายอุตสาหกรรม ส่วนการลงทุนนหุ้น เน้นลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและราคาลงมาน่าสนใจ KTBST SEC ประเมินกรอบดัชนีหุ้นในช่วงนี้เดือนอยู่ที่1,100 –1,300 จุด หากไม่มีสถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น

ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดยชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)

www.mitihoon.com