AIS ทุ่ม 100 ลบ.นำเครือข่าย 5G – นวัตกรรม สนับสนุนการแพทย์ รับมือโควิด-19

149

มิติหุ้น – นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าจัดทัพองค์กร ทุ่มสรรพกำลัง ทั้งเครือข่าย เทคโนโลยีสำคัญใหม่ล่าสุดอย่าง 5G และ พลังของ “คน” เอไอเอส ร่วมพาคนไทยฝ่าวิกฤติไวรัส COVID-19 สนับสนุนบริการทางการแพทย์ และงานสาธารณสุข โดยใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. ติดตั้งเครือข่าย 5G ใน 20 รพ. ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 และกำลังขยาย Coverage 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ รพ. ในกทม.และปริมณฑลอีก 130 รพ. และในต่างจังหวัดอีก 8 รพ. รวมทั้งสิ้น 158 รพ. ภายในเดือนเมษายน 2563 เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเทคโนโลยีและโซลูชันส์ทางการแพทย์ ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และการตอบสนองที่รวดเร็วอย่างยิ่ง 5G จึงเป็นโครงข่ายที่เหมาะสม เพราะทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิต นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนระบบสื่อสาร ทั้ง AIS FIBRE, 4G, AIS Super WiFi และสมาร์ทดีไวซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรพ.

2. ผลักดันนวัตกรรมการแพทย์ในช่วงการระบาด COVID-19 ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ระดมนักวิจัยนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine และโซลูชันส์งานบริการทางแพทย์ โดยทำงานร่วมกับ รพ. เพื่อให้สอดรับกับความต้องการเฉพาะของแต่ละรพ. พร้อมเปิดกว้างในการพัฒนาหุ่นยนต์ร่วมกับคนไทยทุกภาคส่วน

3. พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine เวอร์ชั่นใหม่ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว โดย AIS Robotic Lab ทยอยส่งมอบให้กับรพ. 20 แห่ง ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 เพื่อให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาล ตรวจคัดกรองคนไข้ ด้วยระบบอัจฉริยะ Thermoscan, ระบบปรึกษาทางไกลระหว่างคนไข้และหมอผ่าน VDO CALL โดยที่หมอกับคนไข้ไม่ต้องอยู่ในห้องเดียวกัน หรือสัมผัสใกล้กัน โดยสามารถบังคับหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่ผ่าน 5G ช่วยแบ่งเบาภาระ ลดการแออัด และลดเสี่ยงติดเชื้อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

“วิกฤติในครั้งนี้ ทุกคนมีส่วนร่วมในการนำประเทศชาติ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปพร้อมกันได้ ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใด เราต่างก็มีหัวใจเดียวกันที่พร้อมจะช่วยเหลือและประคับประคองให้บ้านเมืองเรา สามารถก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ” นายสมชัย กล่าว

โดยแผนงาน เอไอเอสจะนำเครือข่าย 5G เข้าไปติดตั้งให้กับ รพ. 20 แห่ง ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 พร้อมมอบหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine จำนวน 21 ตัว ให้กับ รพ. ดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2563 โดยมี รพ. ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ รพ. จุฬาลงกรณ์, รพ. ราชวิถี, รพ. ศิริราช, รพ. รามาธิบดี, รพ. วิชัยยุทธ, รพ. ศิริราชปิยมหาราชการุณย์, รพ. แพทย์รังสิต, รพ. พญาไท 1, รพ. พญาไท 2, รพ. พญาไท 3, รพ. พญาไทนวมินทร์, รพ. กรุงเทพคริสเตียน, รพ. พระราม 9, รพ. เปาโลเมโมเรียลพหลโยธิน (สะพานควาย), รพ. เปาโลเมโมเรียลโชคชัย 4, รพ. เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ, รพ. เปาโลเมโมเรียลรังสิต, รพ. เปาโลเมโมเรียลเกษตร,กรมแพทย์ทหารเรือ และสถาบันบำราศนราดูร

และเตรียมขยาย Coverage 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ รพ. ในกทม.และปริมณฑลอีก 130 รพ. และในต่างจังหวัดอีก 8 รพ. รวมทั้งสิ้น 158 รพ. ภายในเดือนเมษายน 2563

รวมทั้ง ยังได้ระดมบุคลากรนักวิจัยและนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ทั้งคนเอไอเอสและพันธมิตร ตั้งศูนย์ “AIS Robotic Lab by AIS NEXT” ร่วมคิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์ และโซลูชั่นส์เกี่ยวกับ 5G Telemedicine, Telehealth ด้วยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของหุ่นยนต์จะเข้ามาช่วยลดเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิดกับคนไข้โดยตรง เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทางการแพทย์ ช่วยลดงาน ทำให้สามารถดูแลคนไข้ได้มากยิ่งขึ้น ผลงานแรกที่พัฒนาได้สำเร็จ คือ หุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G ในชื่อ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว เตรียมส่งมอบให้กับ 20 รพ. ข้างต้น

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนอื่นๆ จากพลังของชาวเอไอเอส ที่เป็นเหมือนการส่งต่อกำลังใจให้นักรบเสื้อขาว หรือ บุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่การมอบหน้ากาก (Mask) ที่กำลังขาดแคลนอย่างมาก,การมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงสนับสนุนช่องทางสื่อสารเพื่อให้คนไทยได้ส่งกำลังใจ และมีความตระหนักรู้ในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ ในช่วงวิกฤต COVID-19 ครั้งนี้

“เอไอเอสขอปวารณาตัว ร่วมเป็นกำลังสำคัญและแรงพลังในการสนับสนุนทุกภาคส่วน ปฏิบัติภารกิจเพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว วันนี้ ทุกฝ่ายต่างแข็งขันร่วมมือร่วมใจกันในหลายบทบาทหน้าที่ต่างกันไป ทำให้เห็นว่าคนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือกันในยามยากลำบาก แล้วเราจะจับมือกันฟันฝ่าผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน” นายสมชัย

www.mitihoon.com