น่าสงสาร รายย่อย IFEC

476

            เป็นข่าวยุ่งเหยิง วุ่นวายข้ามปี สำหรับกรณีของ บมจ. อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC ที่มีการงัดข้อกันระหว่างผู้บริหาร 2 ขั้ว และล่อกันนัวเนียเรื่องตั๋วแลกเงิน หรือตั๋วบี/อี

            ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ “นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์” อดีตประธานกรรมการ IFEC  ต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จากการไม่เปิดเผยข้อมูลการผิดนัดชำระตั๋วแลกเงิน

            ทั้งนี้ นายวิชัย ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ IFEC ไม่ดำเนินการให้บริษัทชี้แจงประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถามตามที่ปรากฏข่าวว่า IFEC ผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E จนเป็นเหตุให้หุ้น IFEC ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2560 ซึ่งทำให้นายวิชัยได้ประโยชน์

             โดยหุ้น IFEC ที่นายวิชัยถือไว้และเป็นหลักประกันบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทมาร์จิ้น จำนวนรวมกว่า 57.46 ล้านหุ้น “ไม่ถูกบังคับขาย” จึงทำให้นายวิชัยยังคงสภาพการเป็นผู้ถือหุ้นของ IFEC  และสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการในการประชุมผู้ถือหุ้นจำนวน 3 ครั้งในปี 2560 เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง

              การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 170 แห่ง พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองได้รับประโยชน์ตามมาตรา 89/7 และมาตรา 281/2 วรรคสองแห่ง พรบ.ดังกล่าว

              ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษนายวิชัยต่อ ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

              การกล่าวโทษนายวิชัยครั้งนี้ เป็นการกล่าวโทษเพิ่มเติมจากกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษนายวิชัย ในฐานะประธานกรรมการ IFEC ต่อ ปอศ. เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2560 กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น โดยการใช้วิธีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม

            ปัจจุบัน IFEC ไม่สามารถชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้ตามกำหนดเวลา ทำให้ถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องต่อศาล และไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินได้ตามระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด จนเป็นเหตุให้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2560 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้ IFEC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

            การถูกกล่าวโทษครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้นายวิชัยเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน และไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้

            หนังเรื่องยาวของ IFEC แต่คนที่ซวยสุดๆ คือ “ผู้ถือหุ้น”

“บิ๊กเซต”