KIAT ขานรับน้ำมันลด50% เดินเกมรุกขนส่งข้ามชาติ (21/04/63)

653

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการขนส่ง โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยให้ “น้ำหนักเข้าสะสม” หุ้น KIAT เพราะจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 40-50% ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของ KIAT นั้นหมายความว่า หากราคาน้ำมันลดลง ต้นทุนก็จะลดลงตามไปด้วย และจะผลักดันให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน KIAT มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศและรถบรรทุกมากกว่า 700 คัน

KIATพื้นฐานแกร่ง-ต่ำบุ๊กแวลู
ประกอบ KIAT มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดในมือสูง,กำไรสะสม 313.76 ล้านบาท,อัตรากำไรขั้นต้น 30.22% , อัตรากำไรสุทธิ 11-12% , D/E ต่ำเพียง 0.09 เท่า, P/E 7.40 เท่า, P/BV 0.73 เท่า, Yield สูง 13-14% และที่สำคัญราคาหุ้นยังต่ำกว่าบุ๊กแวลูที่ 0.40 บาท ดังนั้นแนะนำ “ซื้อสะสม”

ด้าน “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า ปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ที่ 10% แต่ต้องเฝ้าติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “Covid-19” อีกครั้ง ทั้งนี้ประเมินว่าผลงานจะเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะเป็นช่วงที่ “Covid-19” เริ่มมีความคลี่คลายมากขึ้น ทำให้ความต้องการ “ด้านระบบขนส่ง” ทุกประเภททั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ทุกธุรกิจพร้อมเดินหน้า
โดย “ธุรกิจขนส่งสินค้า” ของบริษัทเป็นการขนส่งวัตถุดิบอุตสาหกรรมและสารเคมี รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงและพลังงาน นับมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมทุกภาคส่วนในประเทศ ทั้งนี้ยังมองโอกาสขยายธุรกิจสู่ประเทศในแถบอาเซียนด้วย จากปัจจุบันขนส่งไปยังประเทศลาวแล้ว

ส่วน “ธุรกิจบริการจัดเก็บและกระจายสินค้า” นั้น ล่าสุดมีลูกค้าทั้งใหม่และเก่าเข้ามาใช้บริการกระจายสินค้าประเภทวัตถุดิบอุตสาหกรรม ที่นิคมฯบางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยามากขึ้น และ “ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจจับอาการเมื่อยล้าของพนักงานขับรถ” อยู่ระหว่างเจรจารับงานหลายบริษัท จากที่ผ่านมารับออเดอร์กลุ่ม PTT แล้วกว่า 1,000 คัน

ขยายฐานขนส่งทางรถไฟ
สำหรับ “บจ.เคที เทรน” (บ.ย่อย “บจ.เคจีพี” ถือหุ้น 99.99% และ KIAT ถือหุ้นใน “บจ.เคจีพี 95%) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์สินค้าจากนิคมฯมาบตาพุดไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ด้วยการขนส่งทางรถไฟ โดย KIAT มีแผนขยายเส้นทางเพิ่มทางภาคเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ซึ่ง “การขนส่งทางรถไฟ” จะมีความต้องการมากขึ้น เพราะมีราคาที่ถูกกว่าและขนสินค้าได้มากกว่า ดังนั้น “เคที เทรน” จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาตค จากเดิมทำกำไรเพียงกว่า 10 ล้านบาท/ปี

www.mitihoon.com