มิติหุ้น-บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส1/63 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 6,971ลบ. EPSที่5.81บาท ลดลง 40 % จากไตรมาส1/62ที่มีกำไรสุทธิ 11.66 หมื่นลบ.ตามผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าลดลง รายได้จากการขายลดลง 6% เป็นผลจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง ตามความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่ลดลง
ด้านบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวงแนะนำ “ซื้อ” SCC ที่ราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 430 บาท โดยประเมินกำไรที่เติบโตมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจแพคเกจจิ้ง โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและ e-commerce ในช่วงการล็อคดาวน์จากโคโรน่าไวรัส , อัตรากำไรธุรกิจเยื่อกระดาษที่ดีขึ้นและกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัท Fajar อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรของธุรกิจซีเมนต์จะอ่อนตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า และการลงทุนเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตามคาดผลการดำเนินงานไตรมาส2/63 มีแนวโน้มขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยมีแรงหนุนจากกำไรที่ปรับขึ้นในทุกธุรกิจหลัก ได้แก่เคมิคอลล์(ส่วนต่างราคาปรับเพิ่มขึ้น) , ธุรกิจแพคเกจจิ้ง(ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท Fajar และ Visy ประเทศไทย) และธุรกิจซีเมนต์(คาดเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในไตรมาส2/63) ในรายงานฉบับนี้ได้รวบรวมสมติฐานกรณีพื้นฐานใหม่ของเรา (การแพร่ระบาดของไวรัสลดลงในเดือน เม.ย. และจบลงในปลายมิ.ย.) เข้าไปในประมาณการ ดังนั้นจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ลง 10 % อยู่ที่ 36,266 ลบ.
www.mitihoon.com
