ธปท.เตรียม 4 แผน รับมือบาทแข็ง หลังเรียกธนาคารพาณิชย์หารือ

152

มิติหุ้น-ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส(ASPS) ประเมินทิศทางค่าเงินบาท/ดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า  คือ จุดสูงสุด 33 บาท วันที่ 1 เม.ย.63 แกว่งตัวในทิศทางขาลง หรือแข็งค่าลงมาจนปัจจุบันรวมราว 4.62% ล่าสุด อยู่ที่ 31.47 บาท และแข็งค่าเป็นลำดับ 2 รองรูเปียะห์อินโดนีเซีย สาเหตุหลักๆเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในช่วงเดียวกัน ผลจากการประท้วงในสหรัฐ และสงครามการค้า

ดังที่ ASPS นำเสนอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “เชื่อว่าในรอบนี้เงินบาทจะไม่แข็งค่าแรงเหมือนปี 2562  ที่เงินบาทณ.15 ธ.ค.2561 จำจุดสูงสุดที่  33 บาท และแข็งค่าจนสิ้นปี ณ.31 ธ.ค.2562 อยู่ที่ 29.68 บาท หรือแข็งค่าตลอดทั้งปี 2562 ราว 10%”  โดยมีเหตุผลสนับสนุนความเชื่อเงินบาทน่าจะชะลอการแข็งค่า  คือ Fund Flow ที่มาจากดุลบัญชีเดินสะพัดจะไม่เกินดุลมากเหมือน ปี 2562 ทั้งนี้เนื่องจาก 1.)ดุลการค้าคาดในช่วงที่เหลือของปี 2562 จะชะลอการเกินดุล เนื่องจาก ภาคส่งออกมีแนวโน้มส่งลดเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ และคาดว่าการส่งออกทองคำและ อาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกินดุลการค้าในเดือนในงวด 1Q2563 จะค่อยๆลดลง  2.) ดุลบริการเนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังชะลอตัว หรือไม่เข้าไทย เนื่องจากมาตรากรควบคุมการเดินทางระวังประเทศที่เข้มงวดของแต่ละประเทศ รวมถึงการที่วัคซีน COVID-19 ยังอยู่ในช่วงพัฒนา   ทำให้คาดภาคการท่องเที่ยวของไทยจะยังไม่ฟื้นตัวมากจนถึงปลายปี

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมออกมาตรการคุมเงินบาท หลังจากเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงฝั่ง ห้องค้าเงินของธนาคารพาณิชย์ และถามความเห็นหากใช้ทางเลือกดังนี้ คือ 1.เก็บภาษีจากผู้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น 2. เก็บอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม กรณีทำการแลกเปลี่ยนเงินบาท 3. ลดการออกพันธบัตรระยะสั้น และ 4.เตรียมออกมาตรการดูแลการซื้อ-ขายของผู้ค้าทองคำ

โดยรวมทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเงินบาทจะชะลอการแข็งค่า จาก 2 ปัจจัยหลักดังกล่าว รวมถึงเริ่มเห็นสงครามการค้าและการประท้วงมีทิศทางผ่อนคลายขึ้นทำให้ Dollar ไม่อ่อนค่า   หากเงินบาทมีแนวโน้มชะลอการแข็งค่าจะทำให้ Fun flow ชะลอการไหลเข้าลงได้เนื่องจากนักลงทุนมีโอกาสเกิด FX Loss มากขึ้น

ขณะที่ Fund Flow ณ ปัจจุบัน แม้เดือนนี้มีการกลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นในทุกประเทศในภูมิภาคกว่า 2.3 พันล้านเหรียญ (mtd) แต่เริ่มไหลเข้าน้อยลงเรื่อยๆ จนล่าสุดวันศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติซื้อหุ้นไทยเพียง 52 ล้านบาทเท่านั้น ด้วย Valuation ที่เริ่มแพงบวกกับแนวโน้มค่าเงินที่มีโอกาสชะลอการแข็งค่าจากมาตรการต่างๆ ทำให้ Fund Flow ที่ไหลเข้ามามีโอกาสขาดความต่อเนื่องได้

www.mitihoon.com