กลุ่มเจมาร์ท สร้างประวัติศาสตร์ นำระบบ e-Voting ผ่านระบบ Blockchain ใช้ครั้งแรกในประเทศไทย

96

มิติหุ้น – นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของกลุ่มเจมาร์ท โดย JMART JMT และ J โชว์เหนือ พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดประชุม และการลงคะแนนโหวต โดยใช้ระบบ e-KYC บนมาตรฐานของ NDID Platform และนำ e-Voting ผ่านระบบ Blockchain มาใช้ครั้งแรกในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้ง การพิสูจน์ตัวตนโดยใช้ Digital ID เกิดขึ้นจริงแล้วที่นี่ ยกระดับมาตรฐานการประชุมผ่านออนไลน์และการโหวตลงคะแนนเสียงที่มีความแม่นยำ โปร่งใส ปลอดภัยสูง แม่ทัพใหญ่หวังเห็นการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ในระดับประเทศ ครั้งนี้เจมาร์ทนำร่องใช้งาน เชื่อจะเป็นมาตรฐานและตัวอย่างที่ดี เป็นอีก New Normal ของการจัดประชุมในอนาคต
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะโฮลดิ้ง คอมพานี ที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการเงิน เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีความยินดีที่เราได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยในสถานการณ์โควิด-19 และอาจจะเป็น New Normal ของการประชุมผู้ถือหุ้นและการประชุมอื่นๆ ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงการโหวตในเรื่องอื่นๆ ยกระดับประเทศไทยในเรื่องการโหวตออนไลน์ หรือ e-Voting ที่มีความเสถียร แม่นยำ ประหยัด ตรวจสอบได้ และเชื่อถือได้ ครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายที่กลุ่มเจมาร์ทอยากจะเห็นประสิทธิภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะเข้ามาช่วยในการทำงาน โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดงานประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นรายแรกของประเทศ (Blockchain AGM Voting) โดยบริษัทย่อย บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นผู้พัฒนา และเป็นต้นแบบในการจัดประชุมและการโหวตผ่านออนไลน์ให้มีมาตรฐาน และการยอมรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“โดยปกติเรื่องของการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC แบงก์จะใช้สำหรับการเปิดบัญชี บนมาตรฐานระบบการเก็บข้อมูลตัวตนอิเล็คทรอนิกส์ระดับประเทศ (NDID) ซึ่งวันนี้เราพัฒนาระบบ e-KYC ด้วยมาตรฐานเดียวกันมาใช้ในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นแบบออนไลน์ รวมถึงการ e-Voting บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ผมยังไม่เห็นว่าวันนี้ใครมีระบบนี้ และนำมาใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม การประชุมผู้ถือหุ้นของกลุ่มเจมาร์ทในครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีการโหวตบนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นครั้งแรกของประเทศ” นายอดิศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Venture) เปิดเผยว่า การประชุมอิเล็กทรอนิกส์กฎหมายออกมารองรับแล้ว จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง ดังนั้น กระบวนการในการยืนยันตัวตนด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นครั้งแรกที่มีการนำเรื่องของ e-KYC บนพื้นฐานการยืนยันตัวตนบน NDID Platform มาใช้นอกแบงก์เป็นครั้งแรกโดยกลุ่มเจมาร์ท รวมทั้ง การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลหรือ Digital ID และการพัฒนาระบบ e-Voting มาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ Proving identity voting การโหวตที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้จริงๆ  Vote at Anywhere สามารถโหวตที่ไหนก็ได้ และ Immutable by Blockchain ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือดัดแปลงได้ ด้วยมาตรฐานการเก็บบนเทคโนโลยีบล็อกเชน
นับเป็นการสะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย ที่เริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัล จากรูปแบบเดิมที่ต้องใช้เอกสาร  (Digital original vs Document original) โดยระบบสามารถเข้าใจและเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานได้ (Treat me as a person)  ทั้งหมดนี้ คือเรื่องของ Digital ID  เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตนจากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกันบนโลกออนไลน์ และเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มที่กลุ่มเจมาร์ทพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“เจเวนเจอร์ส มีความตั้งใจที่จะเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานในกลุ่มเจมาร์ทให้เป็นรูปธรรม และเทคโนโลยีการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจาก ICO แล้วยังคงมีความตั้งใจที่จะทำ Digital transformation ให้กับทางกลุ่มต่อไป” นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแพลตฟอร์มการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Blockchain AGM Voting ของกลุ่มเจมาร์ท ที่นำมาใช้งานในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ ระบบการประชุมทางไกล “e-Meeting” ผ่านโปรแกรม Microsoft Team ภายใต้ พ.ร.ก. การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2563 ระบบยืนยันตัวตน “e-KYC” บนมาตรฐานของ NDID Platform ที่บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือ Identity Provider (IdP) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับธนาคารใช้งาน และอยู่ภายใต้มาตรฐานของ ETDA และ ระบบ “e-Voting” การโหวตออนไลน์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นรายแรกของประเทศ
โดยบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) บริษัท บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) และ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (J) ใช้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในช่วงที่ผ่านมา นำร่องกลุ่มธุรกิจไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล และสามารถก้าวทัดเทียมระดับสากล

www.mitihoon.com