ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต หรือ MTL โดยนายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า การเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิด ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่เปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภค และส่งผลให้บริษัทประกันชีวิต ต้องเผชิญกับการปรับตัวครั้งสำคัญ
โดยเฉพาะในด้านของการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ที่ต้องสอดรับกับภาวะดอกเบี้ยต่ำด้วย ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ประกันชีวิตถือเป็นการลงทุนในระยะยาว เน้นเรื่องของความคุ้มครองเป็นหลัก การบริหารจัดการต้องอิงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว เมื่อดอกเบี้ยนโยบายต่ำลง ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาต้องคำนึงถึงเรื่องนี้
เน้นความยั่งยืน-ชูสุขภาพมาแรง
เมืองไทยประกันชีวิต มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง และได้หันมาให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพมากขึ้น เพราะต้องการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องยึดความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ยังคงมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อการออม รวมถึงประกันชีวิตควบการลงทุนอยู่ด้วย ปัจจุบันสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ อยู่ที่ราว 80% ที่เหลือผสมผสานกันระหว่างผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อการออม และประกันชีวิตควบการลงทุน
ล่าสุด เพื่อสนองความต้องการของประชาชน ที่มองหาประกันชีวิตและสุขภาพที่สามารถตอบโจทย์เรื่องค่าใช่จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เมืองไทยประกันชีวิต จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ D Health” เก็ทง่าย จ่ายเต็มแม็กซ์ ที่โดดเด่นด้วยความคุ้มครองสุขภาพที่เข้าใจง่ายและให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายตั้งแต่ 1 ล้านบาท สูงสุด 5 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ทั้งคนที่มีสวัสดิการและไม่มีสวัสดิการ หมดกังวลเรื่องค่าห้องที่อาจปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต สบายใจเรื่องค่าห้องผู้ป่วยหนัก (ไอ.ซี.ยู.) ที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
เปิดตัว “D Health” เก็ทง่าย จ่ายเต็มแม็กซ์
สำหรับรายละเอียดความคุ้มครอง เช่น ค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน และ ค่าห้องผู้ป่วยหนัก (ไอ.ซี.ยู.) เหมาจ่ายตามจริง Ø กรณีเจ็บป่วยและกรณีผ่าตัด ทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง เหมาจ่ายตามจริง Ø ดูแลกันยาวๆ ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี Ø ดีที่เลือกได้ เหมาจ่ายตั้งแต่บาทแรก สูงสุด 5 ล้านบาท* ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง Ø ดีที่ได้เลือก เหมาจ่ายแค่ส่วนเกินจากสวัสดิการที่มีอยู่ เพื่อทำให้เบี้ยถูกลง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพและโรคร้ายแรง ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เหมาะกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะได้รับความคุ้มครองแล้วเบี้ยประกันภัยยังสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับการหักลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต แล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 365 (พ.ศ. 2563) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
www.mitihoon.com