แจ้งทุกท่านทราบ!!! คุณๆ นักลงทุนที่รักของเจ๊เรย์ขา อย่าลืมนะคะ วันที่ 2 มี.ค. 61 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์เริ่มใช้ T+2 ในการซื้อขาย นั่นหมายความว่า รอบระยะเวลาชำระราคาและการส่งมอบหุ้น จากที่เคยใช้ 3 วันทำการ ร่นเวลามาเป็น 2 วันทำการ แล้วนะเจ้าคะ
เห็นทาง “เกศรา มัญชุศรี” กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า SET เป็นรายแรกในอาเซียนที่ใช้T+2 และใช้เวลาในการดำเนินการเร็วที่สุดในโลกเพียง 15 เดือน ข้อดีของ T+2 ก็คือ จะช่วยลดความเสี่ยงและลดต้นทุนของอุตสาหกรรมโดยรวม และช่วยให้ผู้ลงทุนบริหารพอร์ตการลงทุนระหว่างประเทศได้สะดวกมากขึ้นด้วย เพราะตลาดหุ้นหลักๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ใช้ T+2 มานานแล้ว
อะไรจะเริ่ดขนาดนั้นคะเนี่ย!!! แต่คุณนักลงทุนโปรดอย่าลืมนะคะ ว่า T+2 ทำให้ได้เงินเข้ากระเป๋าเร็วขึ้น แต่เมื่อขายหุ้น ก็ต้องจ่ายเงินเร็วขึ้นเช่นกันเมื่อเข้าไปซื้อหุ้น
พูดถึงตลาดหุ้นแล้ว เจ๊เรย์ก็มึนมากๆ เลยค่ะ เพราะความเสี่ยงของตลาดหุ้นบ้านเรานี้มาจากปัจจัยต่างประเทศทั้งนั้น ภายหลังนายเจอโรม เพาเวลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันนี้เป็นเพียงเด้งแรกเท่านั้นค่ะ
มาต่อเด้งที่ 2 นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดสงครามทางการค้า และการตอบโต้ระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าเหล็ก หลัง “ทรัมป์” ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียม
ปัจจัยต่างประเทศเหล่านี้ กดให้ดัชนีหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย ดิ่งลงเหวกันหมด! ครั้นจะหันมาพึ่งพาปัจจัยในประเทศ ก็ยากเหลือเกินคุณขา หันซ้ายแลขวาแล้ว เพลียยยยย … ยามนี้ไร้ซึ่งปัจจัยบวกใหม่ๆ มาหนุนให้ตลาดหุ้นไทยอู้ฟู่ หลังหมดฤดูกาลประกาศผลประกอบการไปแล้ว
นักลงทุนรายย่อยอย่างเราจะทำอย่างไรได้ เมื่อยักษ์ใหญ่ของโลกเพียงขยับแค่ลมปาก ก็เล่นเอาวูบวาบสั่นไหวเสียกระบวนกันไป หากทำขึ้นมาจริง ก็คงจะได้แต่ “เก็บคอ งอเข่า เท้าชิด” กันให้ดีๆ เท่านั้นนะคะ !!!!