อสังหาแนวราบยังไปต่อได้ กูรูยก AP – LH ขึ้นแท่นเด่นนำกลุ่ม เชียร์ “ซื้อ”

828

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในรายงานวิเคราะห์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ว่าจากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs (AREA) ยอดเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีแรกปี 63 ลดลงถึง 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหลือ 30,057 ยูนิต โดยยอดเปิดโครงการแนวราบออกมาทรงตัว อยู่ที่ 21,158 ยูนิต ขณะที่ยอดเปิดโครงการคอนโดมิเนียมปรับตัวลดลงถึง 74% เหลือเพียง 8,792 ยูนิต เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงเน้นระบายสต็อกเก่าที่ค้างอยู่ออกไปก่อน

ครึ่งปีแรกยูนิตที่ขายได้ลดลง 45%

ทั้งนี้เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จำนวนยูนิตที่ขายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี63 ปรับตัวลดลง 45% เหลือ 27,717 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายปี กดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแรงในกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งปรับตัวลดลงถึง 54% เหลือ 12,188 ยูนิต ในขณะเดียวกันอุปสงค์โครงการแนวราบยังคงต้านทานความเสี่ยงขาลงได้ดีกว่า โดยปรับตัวลดลง 35% เหลือ 15,147 ยูนิต

ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์พุ่งขึ้นเป็น 71% ของจำนวนยูนิตที่ขายได้ทั้งหมดในช่วงครึ่งปีแรกของปี63 (จาก 63% ในครึ่งปีแรกปี62) ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงมองว่าผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนอาจ outperform ผู้ประกอบการที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์

AREAคาดอุปสงค์โดยรวมปรับตัวลง 35%

AREA คาดว่าอุปสงค์ที่อยู่อาศัยในปีนี้จะปรับตัวลดลง 35%  YoY เหลือราว 65,000 ยูนิต (เปรียบเทียบกับ KGI ที่คาดว่าอุปสงค์จะปรับตัวลง 40% YoY เหลือราว 60,000 ยูนิต) โดยปัจจัยสำคัญทที่ต้องจับตามอง ได้แก่ มาตรการกระตุ้นของภาครัฐ, สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 และภาวะเศรษฐกิจ

ยังคงเลือกหุ้นที่เน้นทำโครงการแนวราบ

ฝ่ายวิจัยยังคงธีมการลงทุนหลักเอาไว้เหมือนเดิม โดยยังคงเลือกผู้ประกอบการที่เน้นทำโครงการแนวราบ เนื่องจากสามารถคุมอุปทานได้ดี (ผู้ประกอบการสามารถทยอยขึ้นโครงการแนวราบทีละเฟสได้) และยังได้แรงหนุนจากผู้ซื้อที่มีอุปสงค์ที่แท้จริง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มียอด backlog โครงการคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับสูงก็มีแนวโน้มที่จะ outperform ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จของโครงการในอดีตซึ่งถึงกำหนดโอนในปีนี้

โดยข้อมูลที่ได้รับช่วยยืนยันมุมมองของฝ่ายวิจัยที่เน้นกลยุทธ์เลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยเน้นกลุ่มที่รายได้มาจากโครงการระดับกลางถึงสูง หรือมี backlog โครงการคอนโดมิเนียมอยู่ในระดับสูง โดยยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ Neutral โดยเลือก AP  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท และ LH แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท โดยยกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

www.mitihoon.com