คอลัมน์ KTBST Build Your Net Worth
สัปดาห์ทำการแรกของเดือน ส.ค. ตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวตามตลาดต่างประเทศ ปัจจัยยังเป็นเรื่องการระบาดของ COVID-19 และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์ ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ เช่น การรายงานของบริษัท UBER และ MSFT ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการปิดเมืองของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากการรายงานผลประกอบการจะมีการพิจารณางบประมาณเยียวยา COVID-19 ของสหรัฐอเมริการอบที่ 2 หลังจากนโยบายเยียวยาชุดแรกได้หมดลงไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถอนุมัติได้ในช่วงครึ่งแรกของเดือนสิงหาคม โดยจะเน้นไปในการช่วยเหลือภาคการศึกษาและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กผ่านการการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างภาคการผลิตของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Healthcare equipment)
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหนุนการลงทุนยังถือว่าไม่มาก หลายบริษัทมีแนวโน้มรายงานผลกำไรออกมาแย่กว่าที่คาดเนื่องจากเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองของสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น บริษัท DISNEY โดย KTBST SEC มองการลงทุนในตลาดสหรัฐฯไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนหากตลาดมีการปรับฐานลงในระยะสั้น
ขณะเดียวกันให้ความสนใจลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงของประเทศยุโรป หลังตัวเลข GDP ออกมาหดตัวน้อยกว่าคาดและตัวเลขผู้ป่วยใหม่หลังเปิดเมืองยังไม่ได้เพิ่มขึ้นในอัตราเร่งจึงมองว่าจะเป็นจังหวะที่ทยอยลงทุนได้ในกลุ่มที่เติบโตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ต้องจับตาดูดัชนีว่าจะปรับตัวจะสามารถยืนเหนือ 1,320 จุดได้จะเป็นสัญญาณที่ดีว่าความกังวลเรื่องปัจจัยลบน้อยลง แต่การลงทุนยังต้องเน้นลงทุนซื้อขายสั้นๆไปก่อนโดยเน้นหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีและหุ้นที่ฟื้นตัวจากเรื่อง COVID-19
ด้านสินทรัพย์อย่างทองคำที่ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,900 เหรียญฯ KTBST SEC แนะนำ หาจังหวะเข้าลงทุนได้หากมีการพักตัวลงมาที่ระดับ 1,800-1,815 เหรียญฯ และมองว่าในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ ราคาทองคำยังไม่ปรับตัวขึ้นไปมากนักเนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงของการรายงานผลประกอบการ
ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียที่น่าสนใจ KTBST SEC แนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ในกลุ่มบริษัทขนาดเล็กมีศักยภาพเติบโตสูง จากเศรษฐกิจจีนเปลี่ยนไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่เน้นการบริโภค การบริการ โดย บลจ.วี เปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิด วี ไชน่า โกรท (WE- CHIG) ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. -11 ส.ค.63 เน้นลงทุนในหุ้นจีน ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม มีการเติบโตที่ยั่งยืน และมีคุณภาพ โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Matthews Asia Funds- China Small Companies Fund ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.วี โทรศัพท์ 02-648-1111 ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php
โดยชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)