มิติหุ้น- TU โชว์ผลงานกำไรไตรมาส 2/63 พุ่ง 1,440 % ทำลายสถิติเป็นประวัติการณ์ ทั้งยอดขายและกำไร โบรกอัพเป้ากำไรใหม่รับผลดีค่าเงินและโควิด-19 ช่วยกระตุ้นยอด พร้อมปรับเพิ่ม Fair Value ปี 2563 ใหม่เท่ากับ 17 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง และขยายธุรกิจให้ครบวงจรด้วยธุรกิจอาหารสำเร็จรูปและอาหารว่างโดย นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/63 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,440 % โดยบริษัทมียอดขายอยู่ที่ 33,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6 % โดยเป็นผลมาจากธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปที่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 16.8 % อยู่ที่ 16,394 ล้านบาท และปริมาณการขาย อยู่ที่ 101,136 ตัน ที่เพิ่มขึ้น 29.6 % ส่วนของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขาย อยู่ที่ 5,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5 % ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกของปี 63 รายได้ที่ 64,154 ล้านบาทเติบโสูงที่สุดในรอบ 3 ปี
กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ยังพบว่าผลกำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 2,366 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีอัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin) อยู่ที่ 18.2 % สูงสุดในรอบ 3 ปีอีกเช่นกัน ซึ่งจากการบริหารสินค้าคงคลังและการบริหารกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพยังทำให้ไตรมาสนี้มีกระแสเงินสดอิสระถึง 5,609 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.32 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 28 % จากเงินปันผลระหว่างกาลปี 62 ซึ่งอยู่ที่ 0.25 บาท/หุ้น
ปรับกำไรโตปี 63
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.9 % จากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้นถึง 14 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าคาดถึง 30 % โดย TU รับผลดีจากกำไรค่าเงิน และยังมี กำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด ซึ่งเติบโตโดดเด่นในช่วง COVID-19 ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง จึงปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิปี 63-64 เฉลี่ยราว 20 % จากการปรับเพิ่มสมมติฐาน gross margin สูงขึ้น จากสัดส่วน product mix ที่ดีกว่าคาด โดยภายหลังปรับเพิ่มประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2563-64 จะเพิ่มขึ้นราว 32% และ 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากธุรกิจทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโต ปรับเพิ่ม Fair Value ปี 2563 ใหม่ เท่ากับ 17 บาท/หุ้น (เดิม 14 บาท)
www.mitihoon.com
