กลุ่มค้าปลีก ถึงเวลาฟื้นตัว CPALL-MAKRO-DOHOME เด่นสุด

540

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากบทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า การเติบโตจากสาขาเดิม ( SSSGX ของกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวขึ้นจาก ไตรมาส2/63 แต่ส่วนใหญ่ยังติดลบหรือบวกเล็กน้อย จากการอุปโภคบริโภคที่ยังชะลอตัว กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับบ้านฟื้นตัวได้ดีกว่ากลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และมีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เราคาดว่าผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกใน ไตรมาส3/63 ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดใน ไตรมาส2/63 แต่ยังคงลดลง YoY อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นโดยได้ผลบวกส่วนหนึ่งจากมาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค หุ้นแนะนำ คือ CPALL (เป้าหมาย 79 บาท)

SSSG เดือน ก.ค. – ส.ค. ฟื้นตัวจาก 2Q63

SSSG ของกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวจากช่วงล็อกดาวน์ใน ไตรมาส2/63 โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยมีการฟื้นตัวชัดเจน เนื่องจากสาขากลับมาเปิดทั้งหมดตามปกติ และพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการปรับปรุงบ้านมากขึ้น ทำให้ SSSG ช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. ของ HMPRO และ GLOBAL ฟื้นจากติดลบ 17-20% ใน ไตรมาส2/63 มาเป็น 0% หรือติดลบ 1-3% ขณะที่ DOHOME มี SSSG เพิ่มขึ้นจาก +0.4% ในไตรมาส 2/63 เป็นประมาณ +8% อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายเดือนพบว่า SSSG ในเดือน ก.ค. ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. และลดลงต่อในเดือน ส.ค.

ส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ฟื้นตัวได้ช้ากว่า เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยตามภาวะเศรษฐกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ซึ่งส่งผลให้ SSSG ร้านเซเว่นฯ และบิ๊กซี ยังติดลบ 13-16% เทียบกับติดลบ 17-20% ในไตรมาส 2/63 ยกเว้น MAKRO ซึ่งฟื้นตัวจาก -3.6% ในไตรมาส 2/63 มาเป็นบวก 2-3% จากการที่ราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น กลุ่มลูกค้า HORECA ส่วนใหญ่กลับมาเปิดดำเนินงาน และผู้บริโภคเน้นการซื้อสินค้าในปริมาณมากเพื่อให้ได้ราคาต่อหน่วยลดลง

อัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มสินค้าบ้านเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มอุปโภคบริโภคลดลง

อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าเกี่ยวกับบ้าน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0-20 bps YoY ตามการปรับ Product mix มาเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง เช่น กลุ่มสินค้าปรับปรุง และตกแต่งบ้าน รวมทั้งสินค้า House brand ประกอบกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มลดลงมากกว่า 40 bps YoY ตาม SSSG ที่ลดลง และการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย

แนวโน้มผลประกอบการ Q3 ฟื้นตัวช้ากว่าคาด

ฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 3/63 ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะจากไตรมาสก่อน จากฐานต่ำในช่วงล็อกดาวน์ แต่การฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาด เนื่องจาก SSSG ส่วนใหญ่ยังติดลบ ทำให้กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากผลของฤดูกาลซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งอาจกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

www.mitihoon.com